ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นตระการพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยมุมมองเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงไตรมาสที่ 4 หรือใน 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ พบว่าจะมีราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 70 ถึง 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล นอกจากนี้จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่บาร์เรลละ 77 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 4 นี้ด้วย
ขณะที่มุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปี 2025 พบว่า ในกรณีที่ไม่เกิดปัจจัยลบ หรือเหตุการณ์ความตึงเครียดที่รุนแรงจนส่งผลไปกระทบให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบในตลาดโลกสะดุดหยุดลงนั้น จะทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2025 อยู่ที่ 76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะมีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดแตะที่ระดับ 95 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หากกลุ่มโอเปกพลัสเพิกเฉยต่อการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อมาชดเชยกับปริมาณน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านที่อาจจะลดน้อยลง ถึงวันละ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งอาจติดต่อกันยาวนาน 6 เดือน ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงและตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับประเทศอิสราเอล
ในทางตรงกันข้าม หากกลุ่มโอเปกพลัสตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อมาชดเชยกับปริมาณน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านที่อาจจะลดน้อยลง ถึงวันละ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งอาจติดต่อกันยาวนาน 6 เดือน ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ จะมีราคาเพิ่มขึ้นมาแตะที่ระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
จากการคาดการณ์เดิม
ส่วนในกรณีที่กำลังการผลิตของประเทศอิหร่านเกิดสะดุดหยุดลง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบหดหายไปวันละ 1 ล้านบาร์เรล จากผลกระทบของการใช้มาตรการคว่ำบาตรจากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกลุ่มโอเปคพลัสค่อยค่อยทยอยเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อมาชดเชยในส่วนของอิหร่านนั้น ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในปี 2025 จะอยู่ที่ 80 ถึง 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ผ่านไป น้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ราคาปิดพุ่งทะยานถึง +9.1% ทำสถิติราคารายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มีนาคม 2023 เป็นต้นมา สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ มีราคาปิดพุ่งทะยานถึง +8% ทำสถิติราคารายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่มกราคม 2023 เป็นต้นมา สาเหตุจากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงสูงตลอดเวลาในตะวันออกกลางโดยเฉพาะประเทศอิหร่านกับอิสราเอล ซึ่งในวันนี้ 7 ตุลาคม 2024 เป็นวันครบรอบ 1 ปีของการโจมตีของกลุ่มฮามาสติดอาวุธที่บุกเข้าไปในเขตอิสราเอลและยิงคร่าชีวิตชาวอิสราเอลเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน ส่งผลให้เกิดการทำสงครามมาถึงเวลา 1 ปีเต็ม