เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานแถลงข่าว Thailand Winter Festivals (ไทยแลนด์ วินเทอร์ เฟสติวัล) ซึ่งจะมีกิจกรรมไฮไลต์ 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.เทศกาลลอยกระทง 2.เทศกาลเคาต์ดาวน์ 3.กิจกรรมเชิงกีฬา 4.กิจกรรมด้านวัฒนธรรม 5.เทศกาลอาหาร 6.เทศกาลดนตรี และ 7.เทศกาลแสงสี โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าร่วม ทั้งนี้นายกฯและรัฐมนตรีพร้อมใจกันสวมผ้าพันคอเข้าธีมฤดูหนาว ซึ่งเป็นผ้าทอ ดอยตุง หมักโคลน สีโทนธรรมชาติ จาก จ.เชียงราย
น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้เป็นบรรยากาศต้อนรับฤดูหนาว ซึ่งฤดูหนาวของไทย อาจจะไม่ได้หนาวมากแต่กิจกรรมแน่นแน่นอน จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวไป จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายทั่วประเทศไทย อย่างที่ได้เคยพูดกันมา เราจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าเที่ยวตลอดทั้งปี เพราะทราบกันดีอยู่กันแล้วว่า ช่วงฤดูหนาว และช่วงสุดท้ายของปี ทุกที่ทั่วโลกก็จะน่าเที่ยว ประเทศไทยต้องทำให้เป็นที่น่าเที่ยว มั่นใจว่าประเทศของเรามีเสน่ห์มากพอและมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีอาหารอร่อย เสน่ห์ของเมืองไทยมีมากมายอยู่ที่ว่าคนไทยทุกคนจะร่วมมือกันอย่างไร มีเสน่ห์ ดึงดูดให้คนทั่วโลกมาเที่ยวประเทศไทย ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมปีหน้า จะจัดเทศกาลฤดูหนาวทั่วประเทศ ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนของประเทศก็มีที่เที่ยวแน่นอน อย่างเทศกาลลอยกระทงที่จังหวัดต่างๆ ก็จัดไม่เหมือนกัน เพราะมีพื้นเมืองไม่เหมือนกัน เมื่อจัดหลายที่ก็ทำให้มีประสบการณ์จากหลายๆ ที่ได้ นี่คือสิ่งที่เราพยายามจะโปรโมต
ขณะที่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า เทศกาลไทยแลนด์ วินเทอร์ เฟสติวัล ปีนี้มีความพิเศษจากปีก่อน เนื่องจากมีการเพิ่มเวลาในการจัดงานและกิจกรรมเพิ่มขึ้น อาทิ งานวิจิตรเจ้าพระยาจากเดิมที่เคยจัด 10-15 วัน ก็เพิ่มเป็นหนึ่งเดือนเต็ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวทยอยเข้ามา ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวมีเวลาในการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยได้ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร หน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์การจัดกิจกรรมและอีเวนต์ (World Class Event Hub) ด้วยการยกระดับเทศกาลงานประเพณีไทยสู่งานเทศกาลระดับโลก (Local to Global) จัดเฟสติวัลหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ได้ดึงงานอีเวนต์ ดนตรี กีฬา ระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ก่อให้เกิดการขยายวันพัก เพิ่มการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยว กระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไปสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก
ส่วน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า งานไทยแลนด์ วินเทอร์ เฟสติวัล 2567 ททท. คาดการณ์ว่าจะเป็นส่วนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจกว่า 3 แสนล้านบาท ผลักดันให้สามารถเข้าใกล้เป้าหมายรายได้รวมของภาคการท่องเที่ยวไทยมากขี้น