นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ทิศทางการทำงานของกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระยะต่อจากนี้มั่นใจว่าจะมีการทำงานที่สอดประสานกันมากขึ้น โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ถ้านโยบายการคลังและการเงินไม่เดินไปด้วยกันก็จะลำบาก ซึ่งเรื่องนี้เราเริ่มเห็นทิศทางที่เหมือนกันจากการที่พูดคุยกันมาอย่างต่อเนื่องว่าเรื่องนี้มีความจำเป็นถ้าเราอยากเห็นประเทศดีขึ้นต้องทำงานร่วมกัน
ส่วนในการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ (29 ต.ค.) ได้มีการตกลงกันในเรื่องของกรอบเงินเฟ้อที่เราใช้กรอบที่ 1-3% เราเป็นเรื่องที่รู้ว่าจะทำให้เศรษฐกิจมีความเติบโตมากขึ้นนั้นเรื่องของเงินเฟ้อต้องไม่ต่ำจนเกินไปแต่อย่าสูงโด่งจนเกินไป ซึ่งเราก็ต้องพยายามทำให้อัตราเงินเฟ้อมาอยู่ที่ใกล้กับระดับ 2%
ขณะที่ในเรื่องดอกเบี้ยนั้นก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจเหมือนกันแต่เป็นเรื่องของการลงทุนคนก็รู้การลงทุนนั้นในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตก็ต้องรู้ว่าเราต้องการเรื่องของดอกเบี้ยที่ต่ำ เพื่อให้กระตุ้นการลงทุนซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคิดเอง โดยที่เราไม่ต้องบอกว่าต้องให้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันได้ฝากให้ ธปท.ไปช่วยดูก็คือเราเป็นประเทศส่งออกก็ได้ขอให้ไปดูในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ขอให้ไปดูว่าเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนนี้อย่าให้ประเทศเราเสียเปรียบคู่แข่ง