ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 41,763 จุด -378 จุด หรือ -0.90% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,705 จุด -108 จุด หรือ -1.86% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 18,095 จุด -512 จุด หรือ -2.76% ส่งผลให้ทั้งดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดดิ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 2 เดือนผ่านมา ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 2 แห่งปิดบวกติดต่อเป็นสัปดาห์ที่ 6 ทำสถิติปิดบวกรายสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุดในปี 2024 นี้
ในเดือนกันยายน ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดขึ้น +2% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแค่เดือนกันยายนปี 2011 เป็นต้นมา และยังปิดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่จบไตรมาส 3 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +8.2%, +5.5% และ +2.6% ตามลำดับ
สาเหตุนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของทั้งไมโครซอฟท์ และเมตา อินคอร์ปอเรชั่น ส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างหนาตา เช่น อเมซอน และอินเทล นอกจากนี้ นักลงทุนรอการประกาศตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรประจำเดือนตุลาคมที่จะประกาศในคืนวันนี้
ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัวที่ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 3.1% ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเหลือเวลาอีก 5 วันจะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ท่ามกลางตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 95% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%