ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2024 เวลา 02.20 น.(ตามเวลาในสหรัฐ) หรือตรงกับ 14.20 น. ดัชนีหุ้นล่วงหน้า หรือ Future ทั้ง 3 ดัชนีหุ้นสำหรัคัญพุ่งทะยานสูงขึ้น ประกอบด้วย ดาวโจนส์ที่ระดับ 43,207 จุด +826 จุด หรือ +1.95% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ที่ระดับ 5,901 จุด +105 จุด หรือ +1.82% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 20,702 จุด +360 จุด หรือ +1.77%
สาเหตุจากนักลงทุนมั่นใจความความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีสัดส่วนคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสูงถึง 248 คะแนน นำนางกมลา แฮร์ริส ที่ได้ 214 คะแนน นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับสัดส่วนคะแนนเสียงเลือกตั้งชนะนางแฮร์ริสใน 2 รัฐสวิงสำคัญ ได้แก่ รัฐเพนซิลวาเนีย และรัฐจอร์เจีย ที่สำคัญในจำนวน 5 รัฐสวิงที่เหลือยังพบว่ามีแนวโน้มสูงมากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะนางแฮร์ริสทั้งหมดอีกด้วย
ย้อนกลับไปในคืนผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,221 จุด +407 จุด หรือ +1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,782 จุด +70 จุด หรือ +1.23% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 18,439 จุด +259 จุด หรือ +1.43% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นเหนือระดับ 42,000 จุดครั้งใหม่ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.2%, -1.4% และ -1.5% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันนี้ ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 100% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%