แห่ถล่มขายทองคำโลกดำดิ่งเหวเกือบ 80 ดอลลาร์ในวันแรกสัปดาห์นี้ ปิดหลุด 2,618 ดอลลาร์ ทุบราคาดำดิ่ง 2 วันติดกันเกือบ 90 ดอลลาร์ ผลพวงเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าจัดใน 4 เดือน ทรัมป์เอฟเฟคยังกดดันราคาทองคำโลกต่อเนื่อง

แห่ถล่มขาย ทองคำโลก ดำดิ่งเหวเกือบ 80 ดอลลาร์ในวันแรกสัปดาห์นี้ ปิดหลุด 2,618 ดอลลาร์ ทุบราคาดำดิ่ง 2 วันติดกันเกือบ 90 ดอลลาร์ ผลพวงเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าจัดใน 4 เดือน ทรัมป์เอฟเฟคยังกดดันราคาทองคำโลกต่อเนื่อง

ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 11 พฤศจิกายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,617.96 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -66.07 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.5% ส่งผลราคาปิดร่วงลง 2 วันติดกันรวม -73.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -3.3% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำร่วงลงมากถึง -1.8% ทำสถิติราคาทองคำรายสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 เดือน

โดยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนผ่านมา มีราคาดำดิ่งลงปิดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนผ่านมา ราคาทองคำ Spot ปิดที่ 2,660.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -80.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -3.0% โดยมีราคาต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 2,652.19 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือดำดิ่งลึกสุดระหว่างวันถึง -88.77 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังทำสถิติราคาทองคำดำดิ่งรุนแรงใน 1 วันที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่มิถุนายนผ่านมา สำหรับราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot สูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,790.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สถิติราคาส่งมอบทันที (Spot) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 7 ครั้งในเดือนตุลาคม

สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,617.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -77.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -2.9% ส่งผลราคาปิดร่วงลง 2 วันติดกันรวม -88.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -3.3%

ขณะที่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนผ่านทา ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Future ปิดที่ 2,669.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -80.50 หรือ -2.9% สำหรับสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้งในเดือนตุลาคม สำหรับราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่าขึ้นถึง 0.5% ทำสถิติแข็งค่าสูงสุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ด้านเศรษฐกิจการเงิน และการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะการประกาศชัดเจนในการขึ้นอัตราภาษีสินค้าจากต่างประเทศตั้งแต่ 10% ถึง 60% ของทรัมป์มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะส่งผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐกลับเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ทำให้วงจรดอกเบี้ยระยะสั้นขาลงต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจชะลอตัวลง หรืออาจถึงเวลาสิ้นสุดลง จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดต่อเนื่องในอีก 2 ปีข้างหน้า

ตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ มีโอกาสที่ 65% จากเดิมที่ 60% ที่เฟดดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%

นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภค และผู้ผลิตประจำเดือนตุลาคมที่จะประกาศในกลางสัปดาห์นี้ รวมถึงรอฟังมุมมองด้านดอกเบี้ยระยะสั้นของประธานธนาคารกลางสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ด้วย

สำหรับราคาทองคำในช่วงแต่ละยุคสมัยของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐใน 8 ปีผ่านมา พบว่าในช่วงเทอมที่ 1 ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 นายโดนัลด์ ทรัมป์ พบว่าราคาทองพุ่งสูงถึง 54% ในระหว่างปี 2016-2020 ต่อมาในช่วงประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 นายโจ ไบเดน พบว่าราคาทองพุ่งสูงถึง 50% ในระหว่างปี 2020-2024

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles