นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน The Standard ECOMIC FORUM 2024 เรื่อง ฝ่าพายุเศรษฐกิจไทย ด้วยนโยบายการคลัง ยอมรับว่า ไทยขาดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง การลงทุนปกติควรเป็น 40% ของงบประมาณ แต่ปัจจุบันมีเพียง 20 % ทำให้จีดีพีเฉลี่ย 1.9%เท่านั้น และเงินเฟ้อในปีนี้คาดว่าไม่ถึงร้อยยละ 1 หนี้สาธารณะ ปัจจุบัน 12 ล้านล้านบาท 67% ของจีดีพี ซึ่งเราต้องทำให้ไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลังที่ 70% ของจีดีพี หรือ หนี้สาธารณะ ต้องไม่เกิน 15 ล้านล้านบาท ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม การทำให้ยอดหนี้สาธารณะต่อจีดีพีลดลง จะต้องเดินหน้าลงทุนเพิ่ม แม้ว่าสภาพคล่องในระบบยังสูง แต่ตอนนี้สถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยกู้ เพราะกังวลนี้ส่วนบุคคลสูง ยอมรับไทยเกิดปัญหาเชิงโครงสร้างสะสมมานาน เมื่อไม่มีการลงทุนใหม่ดัชนีหุ้นไทย จึงไม่คืบหน้า เคลื่อนไหวในระดับปัจจุบันอยู่เป็นเวลานาน เพราะไม่มีการลงทุนใหม่ ไม่มีเครื่องจักรใหม่ ต่างชาติเข้ามา เพราะร้องการลงทุนระยะสั้น ไทยดูเหมือนเป็นเศรษฐกิจดี แต่ไม่รู้จะเดินไปทางไหน แม้จะมีเทคโลโลยีเข้ามา แต่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก
ในส่วนของประเด็นพื้นที่อ้างอิงสิทธิ์ ทางทะเล ไทย-กัมพูชา (OCA) ยอมรับว่ามีความจำเป็นต้องนำพลังงานขึ้นมาใช้ ศักยภาพการผลิตไม่น้อยกว่าผลิตในปัจจุบัน ซึ่งมีน้ำมันดิบด้วย หากนำขึ้นมาได้จะซื้อเวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ก่อนไทยจะเปลี่ยนไปสู่พลังงานทดแทนอื่น อยากหาเจรจาร่วมกันให้สำเร็จ เพื่อนำทรัพยากรที่ดีนำมาใช้ประโยชน์
ด้านการท่องเที่ยวของไทย นับว่ามีศักยภาพ ต่างชาติต้องการเข้ามาท่องเที่ยวไทย ต้องสร้างจุดท่องเที่ยว อาศัยให้อยู่นานขึ้น จึงต้องทุ่มเงินลงทุนผ่านงบประมาณ ฐานภาษีของไทยยังต่ำ ทำอย่างไรในการปรับปรุงฐานภาษี อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงมุ่งรักษาวินัยทางการคลัง ร้อยละ 70 ของจีดีพี เมื่อภาระหนี้เกือบชนเพดานเหลือร้อยละ 4 ทำอย่างไรให้มีเงินมาลงทุนเพิ่ม เมื่อต้องการเห็นจีดีพีร้อยละ 3.5 เป้าหมายเงินเฟ้อร้อยละ 1.2-1.8 จึงมีช่องทางก่อหนี้ 3 ล้านล้านบาท หรือก่อหนี้ได้ปีละ 7.5 แสนล้านบาท โดยต้องประสานกับนโยบายการเงินของ ธปท. ทั้งดูแลอัตราแลกเปลี่ยน อัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ การเดินหน้าพัฒนาโลจิสติกส์ เชื่อมกับศูนย์กลางเศรษฐกิจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ต้องมีหลายพื้นที่ ระบบการขนส่งขนาดใหญ่ รัฐบาลต้องลงทุนโครงสร้างระบบราง และเปิดให้เอกชนเข้ามาวิ่งให้บริการ ภาคอสังหาฯ เป็นสาขากระทบไปทุกภาคส่วน ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเข้ามาดูแลผู้ซื้อบ้านอยู่อาศัย รัฐบาลมีที่ดินราชพัสดุ ที่ดิน รฟท. จำนวนมาก เพื่อนำที่ดินมาเข้าระบบทรัพย์อิงสิทธิ์ เพื่อปล่อยเช่าระยะยาว 80 ปี ไม่ห่วงเรื่องต่างชาติครอบครองสิทธิ์ แผนเหล่านี้ ปัจจุบันในงบประมาณไปแล้ว เพื่อผลักดันการลงทุนให้คืบหน้ามากขึ้น
ปัจจุบันสถานะของประเทศไทย ขาดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มามากกว่า 20 ปีแล้ว โดยมีเม็ดเงินลงทุนแค่กว่า 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ ทั้นี้ที่เกิดภาวะการลงทุนต่ำไม่ใช่เพราะไทยไม่มีเงิน แต่เป็นเพราะจีดีพีไทยโตต่ำ โดยเฉลี่ย 10 ปี จีดีพีแค่ 1.9% ต่อปีเท่านั้น