มาม่าไม่กังวลเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังขายดี การคุมต้นทุนคือความท้าทาย อยากเห็นรัฐทำเศรษฐกิจดีขึ้น เหตุคนไทยติดกับดักรายจ่าย รายได้เท่าไรก็ไม่พอ

มาม่า เศรษฐกิจ

ในงานสัมมนา “THAILAND 2025 โอกาส-ความหวัง-ความจริง” จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “มาม่า” ได้กล่าวในหัวข้อ “โอกาส-ธุรกิจ-คนรุ่นใหม่” ว่าปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถึง 50 ปี ยังเป็นอัพเทรนด์ แม้ยอดบริโภคต่อคนจะไม่โตเร็วเหมือนสมัยก่อน เมื่อ 2 ปีก่อน คนไทยบริโภค 52 ซองต่อคนต่อปี ล่าสุด 55 ซองต่อคนต่อปี คงต้องดูว่ายังจำเป็นต้องสร้างโปรดักส์ใหม่ๆ ออกมามากขนาดไหน ในเมื่อธุรกิจหลักยังไม่ได้อยู่ในช่วงดาวน์เทรนด์ ยังต้องโฟกัสจุดเดิมก่อน แต่ก็ต้องเปิดเซ็กชั่นใหม่ออกมาด้วย ซึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกจำกัดเรื่องราคา ใน 25 ปี การปรับราคาขายรวม 3 ครั้ง ในปี 2541 ปี 2551 ล่าสุดปี 2565 ขึ้นครั้งละ 1 บาทต่อซอง

ปัจจุบันมาม่ามีส่วนแบ่งการตลาดมากสุด เพราะในธุรกิจมีผู้ประกอบการน้อยราย เป็นธุรกิจที่โหดร้าย เพราะกำไรน้อย และยากการบริหารต้นทุนให้มีกำไร มาม่าเป็นบริษัทหนึ่งที่ทำธุรกิจอยู่ได้และกำไรอัตราค่อนข้าง คุมต้นทุนได้ค่อนข้างดี เป็นจุดแข็งในการทำธุรกิจ และเป็นความท้าทายในการควบคุมต้นทุนให้ดี จะทำให้มีกำลังไปต่อสู้กับยอดขาย รวมถึงการรักษากระแสเงินสด

ส่วนคำถามที่ว่ากังวลไหมถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นแล้วคนจะไม่มาซื้อมาม่านั้น นายพันธ์ กล่าวว่าไม่กลัวเลย เพราะไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีแค่ไหน คนอยู่ในระดับลูกค้าหลักของมาม่าก็ไม่รวยขึ้น เพราะติดกับดักรายจ่าย โดยมองว่าตอนนี้คนมีรายได้เท่าไรก็ไม่พอ เพราะรายจ่ายรออยู่ ยิ่งรายได้เพิ่มยิ่งเป็นหนี้เพิ่ม อยากให้รัฐทำเศรษฐกิจดีขึ้น รวมถึงอยากให้มีการให้ความรู้เรื่องการออมด้วย ขณะเดียวกันปัญหาต่างๆ ยังไม่ได้ถูกแก้อย่างเป็นระบบ เช่น การศึกษา คอร์รัปชั่น คอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น” นายพันธ์กล่าว

“ช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมาจะมีบะหมี่สำเร็จรูปจากเกาหลีและต่างชาติเข้ามาตีตลาด ขาย 35 บาท 45 บาท และกินส่วนแบ่งตลาดไปมาก แต่ทางกลับกัน ได้เห็นวิกฤตเป็นโอกาส เห็นการทำลายกำแพงราคาของบะหมี่ที่ถูกจำกัด 6 บาท 7 บาท คนไม่ยอมกินบะหมี่ราคาแพงกว่านี้เลย เราเคยออกบะหมี่โอเรียลทัลคิทเช่น ขาย 13-14 บาท ขายไม่ได้ ไม่โต เพราะถูกสินค้าต่างประเทศเข้ามาทลายกำแพง เราเลยรีแบรนด์ใหม่เป็น ‘มาม่าโอเค’ ขายราคา 15 บาท และได้รับความนิยม มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 10% เพราะถูกบะหมี่เกาหลีทลายเพดานราคาไปแล้ว

วันนี้มาม่าโอเคไม่ใช่สินค้าของแพงนะ เป็นสินค้าคุณภาพเดียวกับต่างชาติเลย และคนรุ่นใหม่ชอบ เพราะแม้จะเป็นบะหมี่พรีเมียม แต่ราคาเข้าถึงง่าย และกำลังทำให้คนอายุ 30 กว่าๆ รู้จักมากขึ้น รวมถึงเปิดร้านมาม่าสเตชั่นด้วยที่อาร์ซีเอ ขายดีมาก”

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles