นายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เป็นภาษีที่เก็บจากทุกคน หลายคนมองว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหว แต่ถ้าหากเก็บให้สูงขึ้นและเหมาะสม จะทำให้ผู้ที่มีรายได้ต่ำรอด ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนจะลดลง เมื่อมีการเก็บสูงขึ้น คนรวยมาก ๆ จ่ายสูงขึ้น คนรวยปานกลางจ่ายสูงขึ้น เงินกองกลางก็ใหญ่ขึ้น ก็จะส่งกลับไปให้โอกาสกับคนที่มีรายได้น้อย ผ่านมาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะสาธารณสุข ที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล สถานศึกษา
ดังนั้น จึงได้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ให้เร่งพิจารณาเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสนับสนุนเรื่องการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ซึ่งภาษีที่มีส่วนสำคัญคือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม จะต้องปรับสอดคล้องกับหลายประเทศทั่วโลก ปัจจุบันประเทศไทยเก็บอยู่ที่ 7% จากเพดานที่ให้เก็บได้ 10% ซึ่งถือว่าน้อย เมื่อเทียบต่างประเทศทั่วโลก ที่มีการเก็บภาษี VAT เฉลี่ยที่ 15-25% ของประเทศ เช่น จีนเก็บภาษี VAT 19% สิงคโปร์ 9% จากเดิมที่อยู่ 5% และหลายประเทศในยุโรปขึ้นไปหลักเกือบ 20%
นอกจากนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งที่ผ่านมามีการพิจารณา Global Minimum Tax (GMT) ทำให้มีการปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลของแต่ละประเทศ โดยไทยจะศึกษาการจัดเก็บจากในปัจจุบัน 20% ลดลงมาเป็น 15% และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งจะมีการศึกษาเพื่อจูงใจการทำงานในประเทศไทย อาจมีการพิจารณาจาก 35% เหลือ 15%
ทั้งนี้ นายพิชัยกล่าวว่า การเก็บภาษีสูงเป็นเรื่องที่เราจะต้องพิจารณาอีกที ในแง่นโยบายการเงินทางด้านรายได้ของภาครัฐ ซึ่งผมนอนคิดทุกคืนว่าจะทำอย่างไร ก็จะทำให้คนเข้าใจก่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน