นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวกระทรวงคลัง อาจปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 15% ว่า เพดาน VAT ของไทยอยู่ที่ 10% แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยยังเติบโตในระดับต่ำไม่ถึง 2% ทำให้รัฐบาลที่ผ่านมายังคงต่ออายุการเก็บ VAT ไว้ที่ 7% เท่านั้น อีกทั้งในปีนี้ เศรษฐกิจไทยยังเติบโตอยู่ในระดับเช่นเดิม ดังนั้น ขณะนี้จึงยังไม่ใช่เวลาที่จะปรับขึ้น VAT และเชื่อว่าหากรัฐบาลจะปรับขึ้นคงไม่ปรับขึ้นในทันที คงต้องหารือกับภาคเอกชนก่อน เพราะการจะปรับขึ้นจาก 7% เป็น 10% หรือ 15% จะส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชน และภาคเอกชน โดยเฉพาะอาจทำให้มีการเลี่ยงการเข้าสู่ระบบ VAT
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน รัฐบาลยังไม่สามารถเก็บ VAT จากผู้ประกอบการจำนวนมาก เพราะยังไม่เข้าสู่ระบบ VAT โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผู้ที่ค้าขายผ่านอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งคิดเป็นเงินจำนวนมหาศาล ถ้ารัฐบาลจะเก็บ VAT เพิ่มขึ้นอีก เกรงว่าจะทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เลี่ยงการเข้าสู่ระบบ VAT ได้ รัฐบาลต้องผลักดันให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ เข้าสู่ระบบ VAT และเข้าสู่ระบบภาษีให้มากขึ้น และมองว่า หากรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 5% กระจายรายได้สู่ประชาชนให้มากขึ้น การปรับขึ้น VAT ก็น่าจะรับได้
ด้านนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะปรับขึ้น VAT เพราะเศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่ำ ประชาชนมีปัญหาหนี้ครัวเรือน และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ยังมีปัญหาหนี้สิน ทางที่ดีรัฐบาลควรผลักดันให้ธุรกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใต้ดิน ธุรกิจต่าง ๆ ที่เป็นนอมินีของคนต่างด้าว ฯลฯ เพื่อที่รัฐบาลจะจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นเงินจะไหลออกนอกประเทศหมด รวมทั้งต้องดึงแรงงานนอกระบบที่มีมากถึงราว 50% ให้เข้าสู่ระบบมากขึ้น