ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุดในวันนี้ (11 ธ.ค.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย (Developing Asia) จะเติบโตชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งอาจแย่ลง หากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เร่งปรับเปลี่ยนนโยบายการค้า
โดยในรายงานของ ADB ระบุว่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ซึ่งครอบคลุม 46 ประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมถึงจีน เกาหลีใต้ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย (ไม่รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) คาดว่าจะขยายตัว 4.9% ในปี 2567 และ 4.8% ในปี 2568 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมในเดือนก.ย.ที่ 5.0% และ 4.9% ตามลำดับ
ทั้งนี้ การปรับลดคาดการณ์การเติบโตนี้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่ซบเซาในบางประเทศช่วงไตรมาส 3/2567 และแนวโน้มการบริโภคที่อ่อนแอลง
สำหรับเศรษฐกิจจีน ADB ยังคงคาดการณ์การเติบโตที่ 4.8% ในปี 2567 และ 4.5% ในปี 2568 แต่ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอินเดียลงเหลือ 6.5% ในปี 2567 จากเดิม 7.0% และเหลือ 7.0% ในปี 2568 จากเดิม 7.2%
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้า การคลัง และการเข้าเมืองของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตและเร่งเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย แม้ผลกระทบส่วนใหญ่น่าจะเกิดขึ้นหลังช่วงระยะเวลาคาดการณ์ปี 2567-2568 โดยความเสี่ยงด้านลบยังคงมีอยู่ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ ที่รวดเร็วและรุนแรงกว่าที่คาด ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจเลวร้ายลง และตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนที่อาจอ่อนแอลงกว่านี้
ทั้งนี้ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2567 และ 2568 ลงเหลือ 2.7% และ 2.6% ตามลำดับ จากเดิม 2.8% และ 2.9% เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่อ่อนตัวลง