โคเซ่ ยักษ์เครื่องสำอางญี่ปุ่นฮุบกิจการปัญญ์ปุริ Pañpuri แบรนด์สปาเครื่องหอมของไทย หวังขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น

โคเซ่ ยักษ์เครื่องสำอางญี่ปุ่นฮุบกิจการ ปัญญ์ปุริ Pañpuri แบรนด์สปาเครื่องหอมของไทย หวังขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น

โคเซ่ (Kosé) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และหลากหลายธุรกิจชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อกิจการแบรนด์ปัญญ์ปุริ (Pañpuri) ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านสปาและดูแลผิวกายของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายไม่เปิดเผยมูลค่าการซื้อกิจการในครั้งนี้ ขณะที่ปัญญ์ปุริ มีรายได้ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,088 ล้านบาทในปี 2024

ปัญญ์ปุริ (Pañpuri) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ผลิตสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม สกินแคร์ และน้ำหอมในคุณภาพระดับพรีเมียมที่มีแรงบันดาลใจมาจากวิถีการดูแลสุขภาพแบบไทยนั้น ก่อตั้งขึ้นโดยคุณวรวิทย์ สิริภาคย์ในปี 2546 หรือเมื่อ 21 ปีผ่านมา

ในประเทศไทยนั้น แบรนด์ปัญญ์ปุริมีร้านจำหน่ายสินค้าจำนวน 26 แห่ง รวมถึงมีร้านอยู่ภายในศูนย์การค้าระดับหรูหราในกรุงเทพ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ และเอ็มควอเทียร์ นอกจากนี้ ยังส่งออกไปจำหน่ายใน 15 ประเทศในยุโรปและเอเชีย ในประเทศญี่ปุ่นนั้น แบรนด์ดังกล่าวจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ชินจูกุ และฮันคิว อูเมดะ ในฮ่องกง มีจำหน่วยในห้าง K11 ด้วย

ไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์ คูเปอร์ หรือพีดับเบิลยูซี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน และบริการตรวจสอบบัญชีชื่อดัง เปิดเผยว่า โคเซ่ ระบุถึงการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้แบรนด์ปัญญ์ปุริสามารถเข้าถึงในตลาดต่างประเทศในภาพลักษณ์ของแบรนด์เพื่อสุขภาพหรูหราแท้จริงจากเอเชีย

สำหรับโคเซ่นั้น เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และหลากหลายธุรกิจชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น มีหลากหลายแบรนด์เครื่องสำอางและความงาม เช่น แบรนด์ Decorté ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ระดับหรูหราที่ก่อตั้งมานานถึง 54 ปี หรือตั้งแต่ปี 1970 และแบรนด์ Tarte ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1999 หรือมีอายุมา 25 ปี โดยถูกโคเซ่ซื้อกิจการในปี 2014 หรือเมื่อ 10 ปีผ่านมา

นอกจากนี้ โคเซ่ประกอบธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อำนวยความสะดวก การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ การผลิตและส่งออกวัสดุ ตลอดจนธุรกิจรับจ้างผลิต หรือ OEM ด้านผลประกอบการ พบว่าโคเซ่มียอดขายของบริษัทในปี 2024 อยู่ที่ 2,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 70,519 ล้านบาท ลดลงจากปี 2023 ที่ 2,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 71,193 ล้านบาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles