นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 11 ธ.ค. 2567 ว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ใช้จ่ายงบประมาณในวงเงิน 472.67 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือน ก.ย. 2567 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้แก่ประชาชน
โดยที่ผ่านมามีการของบประมาณไว้ตั้งแต่ 23 ก.ค. 2567 และ ครม. ในครั้งนี้ได้อนุมัติงบช่วยเหลือค่าไฟฟ้าครอบคลุมระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่เดือน ก.ย. – ธ.ค 2567 เพื่อลดค่าไฟฟ้าลง 19.05 สตางค์ต่อหน่วย โดยคาดว่าจะใช้เงินงบประมาณทั้งสิ้น 1,900 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะเดือน ก.ย. 2567 ใช้ไปแล้ว 472 ล้านบาท
สำหรับการการอนุมัติเงินในครั้งนี้ เป็นการช่วยค่าไฟฟ้าประชาชนกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ในพื้นที่ กฟน. และกฟภ. และกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ทั้งนี้คาดว่าจะช่วยกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ของ กฟน. ได้ 2.31 ล้านราย และในพื้นที่ กฟภ. อีก 16.55 ล้านราย
ทั้งนี้ การอนุมัติงบประมาณดังกล่าว เป็นการอนุมัติเพื่อช่วยค่าไฟฟ้าย้อนหลังของเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2567 ซึ่งค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2567 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศค่าไฟฟ้าทั่วไปอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย ภาครัฐให้การช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย