ไม่น่าแพง! วิกฤตการเมืองในซีเรียส่อยืดเยื้อ ผลกระทบราคาน้ำมันดิบโลกไม่ผันผวนวงกว้าง

ไม่น่าแพง! วิกฤตการเมืองในซีเรียส่อยืดเยื้อ ผลกระทบราคา น้ำมันดิบ โลกไม่ผันผวนวงกว้าง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในโลกและภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น หลังวันที่ 8 ธ.ค.2024 กลุ่มกบฏซีเรียสามารถยึดครองกรุงดามัสกัสซึ่งเป็นเมืองหลวงของซีเรียและโค่นล้มรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งรัสเซียและอิหร่านได้ให้การสนับสนุน โดยถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ยืดเยื้อมานาน 13 ปี

สำหรับสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนกลุ่มต่อต้านระบอบอัสซาดและกลุ่มต่อต้านรัฐอิสลาม (ISIS) ในซีเรียยังมีท่าทีไม่ชัดเจน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความกังวลว่าการล่มสลายของอัสซาดอาจนำมาสู่การเพิ่มอำนาจของกลุ่ม ISIS จึงยังโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับชัยชนะให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไปส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวและลดการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองในซีเรีย

การล่มสลายของระบอบอัสซาดนำมาสู่ความไม่แน่นอนในภูมิภาคตะวันออกกลางสูงขึ้น สถานการณ์สุญญากาศในซีเรียปัจจุบันอาจส่งผลให้ชาติตะวันตก หรือกลุ่มที่มีแนวคิดหรือนโยบายสุดโต่งเข้ามามีอิทธิพลในซีเรียมากขึ้น โดยซีเรียมีความสำคัญในเชิงของภูมิประเทศ โดยมีบทบาทในเส้นทางการค้าระหว่างตะวันออกกลางและยุโรป รวมถึงมีแหล่งทรัพยากรสำคัญอย่างน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

อย่างไรก็ดี ผลจากความขัดแย้งในซีเรียส่งผลจำกัดต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เนื่องจากซีเรียไม่ใช่ผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันดิบรายสำคัญของโลก โดยหลังจากเกิดสงครามกลางเมืองในซีเรียปี 2554 โครงสร้างพื้นฐานและภาคการผลิตน้ำมันถูกทำลาย ส่งผลให้ซีเรียผลิตน้ำมันดิบได้ลดลงมากจากก่อนหน้านี้ที่ผลิตได้ราว 380,000 บาร์เรลต่อวัน โดยน้ำมันทั้งหมดเป็นการผลิตเพื่อใช้บริโภคในประเทศ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกถูกกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอโดยเฉพาะจากตลาดจีน ถึงแม้ว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในซีเรียได้สร้างความกังวลให้ตลาดและสร้างความผันผวนต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในระยะสั้น แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปัจจุบันยังอยู่ระดับต่ำกว่า 75 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (ณ วันที่ 10 ธ.ค.2024)

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้น หากสถานการณ์ขยายวงกว้างออกไปนอกซีเรีย แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันคาดว่าจะยังอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากรัสเซียกำลังมุ่งทำสงครามกับยูเครน และอิหร่านมีบทบาทมากขึ้นในสงครามอิสราเอล-ฮามาส ขณะที่นโยบายผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่มีนโยบายลดบทบาทของสหรัฐฯ ในพื้นที่ความขัดแย้งต่างๆ และมุ่งประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles