นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือ สภาพัฒน์ กล่าวในเวที KTC FIT Talk 13 โดยระบุว่า หากมองไปในปี 68 เศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวแบบกระท่อนกระแท่นเช่นปีนี้ มีความเสี่ยงในขาลงอยู่มากและมีโอกาสที่จีดีพีโตต่ำกว่า 2.9% จากเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน การส่งออกไปสหรัฐ เท่ากับเกือบ 10% ของจีดีพี จะมีความเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์
ส่วนการท่องเที่ยวคงจะฟื้นตัวต่อไป จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 40,000,000 คน แต่รายจ่ายต่อหัวจะยังต่ำ ขณะที่แรงกระตุ้นจากภาครัฐจะมีต่อเนื่องถึงกลางปีหน้า จากการแจกเงิน 10,000 ก้อนสุดท้าย และการเร่งใช้งบลงทุน แต่การรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพูดถึงการเก็บภาษีเพิ่ม แปลว่านโยบายการคลังตึงตัวขึ้น
ดังนั้นนโยบายการเงินจะต้องสลับมาเป็นกองหน้าบ้าง จากปัจจุบันที่นั่งดูอยู่ริมสนาม โดยคาดการณ์กันว่าในการประชุมกอวันพรุ่งนี้ จะยังคงดอกเบี้ย แต่จะเริ่มลดในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าแบงค์ชาติจะลดดอกเบี้ยลงสองครั้งในปี 68 เพราะเงินเฟ้อต่ำมาก
อย่างไรก็ตามหากผ่อนคลายนโยบายการเงินเชื่องช้าเกินไปผลที่จะตามมาคือกำลังซื้อในประเทศจะไม่แข็งแรงและเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นไปได้อีก