นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้นำข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจเชิงลึกของปี 2567 ที่ปัจจุบันมียอดรวม 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) ทั้งข้อมูลจำนวนการจัดตั้งธุรกิจใหม่ ผลประกอบการ (กำไร-ขาดทุน) การเลิกประกอบกิจการ และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เช่น แนวโน้มธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ กระแสความนิยม นโยบายภาครัฐ ดัชนีทางเศรษฐกิจ สถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และการแข่งขันของธุรกิจ มาทำการวิเคราะห์ พบว่าธุรกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอย และต้องเร่งปรับตัวมี 5 ธุรกิจ ดังนี้
1.ธุรกิจการผลิตเหล็ก โลหะมีค่า และอัญมณี ได้แก่ ธุรกิจผลิตเหล็กและเหล็กกล้า ขั้นต้น ขั้นกลาง เหล็กแผ่น ธุรกิจผลิตโลหะมีค่า ธุรกิจผลิตโลหะที่เป็นโครงสร้างของการก่อสร้างอาคาร ธุรกิจผลิตเครื่องประดับ การเจียระไนเพชรพลอย เป็นต้น เพราะถูกเหล็กต่างประเทศเข้ามาทุ่มตลาด และการค้าอัญมณีลดลง จากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดย 11 เดือน ตั้งใหม่ 306 ราย ลดลง 5.56% ทุนจดทะเบียน 2,492.42 ล้านบาท ลดลง 2.85% และทั้งกลุ่มมีรายได้รวม 1.87 ล้านล้านบาท
2.ธุรกิจร้านค้าส่งค้าปลีกแบบออฟไลน์ (ร้านค้าโชห่วย) ได้แก่ ธุรกิจขายปลีกสินค้าอื่น ๆ ในร้านค้าทั่วไป ได้รับผลกระทบจากการค้าออนไลน์ที่ผู้บริโภคนิยมไปใช้มากขึ้น และแพลตฟอร์มออนไลน์ทำธุรกิจด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า โดย 11 เดือน ตั้งใหม่ 1,466 ราย ลดลง 1.21% ทุนจดทะเบียน 2,004.79 ล้านบาท ลดลง 0.22% และทั้งกลุ่มมีรายได้ 3.76 แสนล้านบาท
3.ธุรกิจสื่อและการประชาสัมพันธ์แบบออฟไลน์ ได้แก่ ธุรกิจพิมพ์หนังสือพิมพ์และวารสาร ธุรกิจจัดพิมพ์จำหน่ายหรือเผยแพร่โบรชัวร์ใบปลิวและสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ธุรกิจกิจกรรมเผยแพร่ภาพยนตร์ (จำหน่ายฟิล์มภาพยนตร์ให้แก่โรงภาพยนตร์ เครือข่ายโทรทัศน์) เป็นต้น เพราะถูกแทนที่ด้วยสื่อออนไลน์ ที่มีความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและวัดผลการโฆษณาได้ดีกว่า โดย 11 เดือน ตั้งใหม่ 13 ราย ลดลง 56.67% ทุนจดทะเบียน 10.40 ล้านบาท ลดลง 76.68% และทั้งกลุ่มมีรายได้อยู่ที่ 8.15 พันล้านบาท
4.ธุรกิจแปรรูปสินค้าทางการเกษตร ได้แก่ ธุรกิจแปรรูปและการถนอมผลไม้และผักด้วยวิธีอื่น ๆ ธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำด้วยการอบแห้ง การรมควัน การทำเค็ม การหมักในน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชูธุรกิจการผลิตเนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์ปีกด้วยการ อบแห้ง การทำเค็มหรือการรมควัน ธุรกิจแปรรูปสินค้าเกษตร เพราะได้รับผลกระทบจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผลผลิตลดลง มีการใช้มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม และต้นทุนการผลิตสูงขึ้น โดย 11 เดือน ตั้งใหม่ 123 ราย ลดลง 24.54% ทุนจดทะเบียน 311.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.87% และทั้งกลุ่มมีรายได้ 5.71 หมื่นล้านบาท
5.ธุรกิจตัวแทนและนายหน้า ได้แก่ ธุรกิจกิจกรรมของตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและตัวแทนออก ธุรกิจกิจกรรมของตัวแทนและนายหน้า ประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ธุรกิจกิจกรรมของตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ธุรกิจตัวแทนและนายหน้า เพราะการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ กำลังซื้อผู้บริโภคลด การเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ทำให้ติดต่อกันได้โดยตรง โดย 11 เดือน ตั้งใหม่ 2,037 ราย ลดลง 14.91% ทุนจดทะเบียน 5,865.61 ล้านบาท ลดลง 52.81% และทั้งกลุ่มมีรายได้ 2.63 แสนล้านบาท