นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่เที่ยวต่างประเทศช่วงปีใหม่-ตรุษจีนคึกคัก เหตุราคาตั๋วถูกกว่าบินในประเทศ อัตราการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบินช่วงเทศกาล 8 วันพุ่งขึ้นเกือบสามเท่า

Airbnb China รายงานข้อมูลโดยระบุว่าชาวจีนพากันค้นหาตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน 8 วัน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. ไปจนถึงวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งมากกว่าถึงเกือบสามเท่าเมื่อเทียบกับการค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงวันหยุดปีใหม่วันที่ 1 ม.ค. นี้

โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเดินทางชาวจีนในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ ญี่ปุ่น ไทย นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา อิตาลี และอินโดนีเซีย

Tuniu Corp ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู เปิดเผยว่า ในฤดูหนาวนี้ ชาวจีนจำนวนมากต้องการหลีกหนีอากาศที่หนาวเย็นในประเทศ และเลือกเดินทางไปเที่ยวในประเทศที่มีอากาศอุ่นกว่า เช่น ไทย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย และศรีลังกา

นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลกฟื้นตัวใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิดระบาด และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะโตยิ่งขึ้นในปี 2568 โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้า พบว่ายอดจองตั๋วเครื่องบินและที่พักในต่างประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก อันเนื่องมาจากหลายปัจจัยสนับสนุน เช่น นโยบายฟรีวีซ่า ราคาตั๋วเครื่องบินที่ถูกกว่าในประเทศ และสภาพอากาศ

สอดคล้องกับข้อมูลของ Caissa Touristic บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวในปักกิ่ง ซึ่งเผยว่า จุดหมายปลายทางที่มีอากาศอบอุ่น เช่น ออสเตรเลีย อียิปต์ โมร็อกโก และอเมริกาใต้ ทำยอดขายคึกคักในฤดูหนาวนี้

โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวจีนจำนวนมากเลือกเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดด้วยการเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้นเป็นเพราะราคาตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศมีราคาถูกกว่าในประเทศ เช่น ตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯ ถูกกว่าตั๋วเครื่องบินไปซานย่า มณฑลไห่หนาน จากการเปิดเผยของแอนดี้ หวัง พนักงานออฟฟิศในเซี่ยงไฮ้ ที่เพิ่งตัดสินใจจองตั๋วไปเกาะเจจูของเกาหลีใต้ในช่วงตรุษจีน เพราะถูกกว่าตั๋วไปสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศจีน เช่น ฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง

ตามข้อมูลของ Qunar ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ในปักกิ่ง พบว่าการจองเที่ยวบินขาออกและโรงแรมต่างประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้านั้น เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้ง ค่าโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศสำหรับช่วงวันหยุดตรุษจีน 2568 ลดลงโดยเฉลี่ย 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ค่าโรงแรมลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่า 40% สำหรับจุดหมายปลายทางบางแห่ง เช่น ในอินเดีย แอฟริกาใต้ ซาอุดีอาระเบีย เม็กซิโก และอาร์เจนตินา

ตามข้อมูลของ Qunar พบว่า ผู้ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ชาวจีนจองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองต่าง ๆ มากกว่า 1,300 เมืองใน 96 ประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับจุดหมายปลายทางที่มีการเติบโตสูงในแง่ของปริมาณการจองตั๋วเครื่องบิน ได้แก่ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา นาโกย่าและซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น บูดาเปสต์ในฮังการี และฮานอย เวียดนาม โดยยอดจองตั๋วเครื่องบินไปยังสถานที่เหล่านี้เพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ในช่วงกลางเดือนธ.ค. 2567 สายการบินไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ (China Southern Airlines) ได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินระหว่างเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง กับภูเก็ต ประเทศไทย โดยเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจาก 7 เที่ยวต่อสัปดาห์เป็น 14 เที่ยว นอกจากนี้ สายการบินยังได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินระหว่างเมืองกว่างโจวกับเชียงใหม่ ประเทศไทย และซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย อีกด้วย

นอกจากนี้ ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ ยังได้ประกาศว่าตั้งแต่เดือนม.ค. 2568 เป็นต้นไป สายการบินจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินจากเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ไปยังกรุงเทพฯ, จากเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ไปยังกรุงเทพฯ และจากฉางซา มณฑลหูหนาน ไปยังสิงคโปร์

รายงานแนวโน้มการเดินทางล่าสุดจากสายการบินสกู๊ต (Scoot) ของสิงคโปร์ ระบุว่า สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากนโยบายเข้าเมืองโดยไม่ต้องขอวีซ่า และการที่ประเทศตั้งอยู่ใกล้กับจีน ทำให้หลายคนซื้อตั๋วล่วงหน้าเพียงหนึ่งสัปดาห์

เว็บไซต์ไชนาเดลีรายงานว่า สถาบันการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (China Tourism Academy) กล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจีนกำลังกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจการท่องเที่ยว (Tourism Economy) อีกครั้ง โดยได้รับแรงกระตุ้นจากแนวโน้มการยกระดับการบริโภคในประเทศ ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ ชาวจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมีจำนวนเกือบ 95 ล้านคน เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และตัวเลขดังกล่าวดีดตัวขึ้นเป็น 82% ของระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2562

นอกจากนี้ยังพบว่า ชาวจีนสนใจเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ และทำกิจกรรมที่นอกเหนือจากการเยือนสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแบบเดิม ๆอีกด้วย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles