เซ็นทรัล รีเทล ผนึกธุรกิจในเครือ ลุยโครงการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท พร้อมจัดโปรฯคุ้ม 3 ต่อ

นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล ในฐานะผู้นำค้าปลีกและค้าส่งชั้นนำของไทย ที่มีธุรกิจในเครือครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มฟู้ด กลุ่มแฟชั่น กลุ่มฮาร์ดไลน์ กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ และกลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 68 ให้เติบโตล่าสุดเซ็นทรัล รีเทล และธุรกิจในเครือมากกว่า 3,000 สาขา ได้ตอบรับมาตรการ Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีปี 2568 สูงสุดรวม 50,000 บาท ที่รัฐบาลได้เห็นชอบออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1 ของปี โดยมองว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถปลุกกระแส และสร้างบรรยากาศการใช้จ่ายในประเทศให้คึกคัก ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวและมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้นได้ถึง 70,000 ล้านบาท ตามที่ภาครัฐตั้งเป้าไว้ เนื่องจากยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของการช้อปปิ้งที่ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยตามเทศกาลต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ เทศกาลปีใหม่ วันเด็ก ตรุษจีน หรือวาเลนไทน์ ฯลฯ โดยในปีที่ผ่านมาช่วงของโครงการ Easy E-Receipt สามารถสร้างยอดขายภาพรวมให้กับเซ็นทรัล รีเทล เพิ่มขึ้นกว่า 40% ทำให้มั่นใจได้ว่าการเข้าร่วมโครงการในปีนี้จะได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เพราะทุกธุรกิจในเครือได้อัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้าในช่วงมาตรการนี้แบบ ‘ได้แล้วได้อีก’ โดยเซ็นทรัล รีเทล มองว่าจะเป็นการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยได้โดยตรง”

โดยสิทธิประโยชน์ ‘ช้อปคุ้ม 3 ต่อ’ ที่ลูกค้าจะได้รับ ประกอบด้วย

ต่อที่ 1 ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ตามมาตรการ Easy E-Receipt เมื่อช้อปห้างร้านในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร

ต่อที่ 2 โปรโมชั่นจัดเต็มจากธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่พร้อมออนท็อปความคุ้มค่า เอาใจนักช้อป อาทิ

-ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล รับเพิ่ม Digital Coupons หรือคูปองแทนเงินสดจากห้างฯ สูงสุด 4,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
-ท็อปส์ รับ Tops E-Voucher มูลค่าสูงสุด 2,900 บาท ที่ร้าน Tops, Tops Food Hall, Tops Fine Food, Tops Daily, Tops online และ Tops care ทุกสาขาทั่วประเทศ เมื่อสะสมยอดชื้อสินค้าครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
-ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม รับคูปองส่วนลดเพิ่มมูลค่าสูงสุด 50,000 บาท สำหรับซื้อสินค้าที่ร่วมรายการ และเมื่อช้อปทั้งร้าน ทุก 10,000 บาท รับฟรี คูปองส่วนลด 1,000 บาท นอกจากนี้สมาชิกบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ลดและรับเพิ่มรวมสูงสุด 35% พร้อมรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 64,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าตามเงื่อนไขที่กำหนด
เพาเวอร์บาย รับส่วนลดเพิ่มรวมสูงสุด 50,000 บาท เมื่อช้อปตามเงื่อนไข พร้อมลุ้นรับฟรี! ทองคำ และบัตรแทนเงินสดเพาเวอร์บาย รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 5 มีนาคม 2568
-ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน รับเพิ่มคูปองส่วนลดจากห้างฯ สูงสุด 4,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบตามเงื่อนไขที่กำหนด
-ซูเปอร์สปอร์ต ลดเพิ่ม 10% เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการจากแบรนด์กีฬาชั้นนำ แถมลุ้นรับอั่งเปาส่วนลด 188 บาท, 288 บาท หรือ 388 บาท เมื่อช้อปครบ 1,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ ในระหว่างวันที่ 7 มกราคม 2568 – 2 กุมภาพันธ์ 2568 (อั่งเปาส่วนลดมีจำนวนจำกัด)
-โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้าโปรโมชั่นสุดคุ้มราคาพิเศษ พร้อมส่งฟรีทุกออเดอร์ เมื่อสั่งผ่าน แอปพลิเคชัน GO WHOLESALE ขั้นต่ำ 1,000 บาท
-ออฟฟิศเมท ลด 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการครบ 2,500 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ และลด 300 บาท เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการครบ 6,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ
-เพ็ทแอนด์มี รับส่วนลดทันทีสูงสุด 1,500 บาท เมื่อมียอดช้อปสินค้าที่ร่วมรายการครบตามเงื่อนไข (เฉพาะ 8 สาขาที่ร่วมรายการเท่านั้น)

ต่อที่ 3 รับสิทธิประโยชน์เพิ่มจากการสะสมและแลกพอยท์ The 1 และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการกว่า 15 บัตร อาทิ บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน, บัตรเครดิตกสิกรไทย, บัตรเครดิต CardX, บัตรเครดิตเคทีซี, บัตรเครดิตยูโอบี เป็นต้น (โปรดตรวจสอบเงื่อนไข ณ จุดขาย)

สำหรับการเข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ในปี 2568 เซ็นทรัล รีเทล และห้างร้านในเครือ พร้อมให้บริการและอำนวยความสะดวกในการดำเนินการเหมือนเช่นเคย เมื่อซื้อสินค้าทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงสุด 50,000 บาท โดยลูกค้าจะต้องขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ตามมาตรการของรัฐ เพียงแค่ยื่นใบเสร็จและบัตรประชาชนที่จุดบริการลูกค้า โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้ ดังนี้
1. ลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน หรือผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน

2. ลดหย่อนเพิ่ม แต่ไม่เกิน 20,000 บาท เมื่อซื้อสินค้าและบริการเหล่านี้ โดยต้องมี e-Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt เป็นหลักฐาน ได้แก่
2.1 ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
2.2 ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
2.3 ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

“เซ็นทรัล รีเทล และธุรกิจในเครือ ขอมอบความคุ้มค่าผ่านแคมเปญโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องตลอดปี เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและความพึงพอใจสูงสุด ควบคู่ไปกับการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ในฐานะผู้นำด้านค้าปลีกและค้าส่งครบวงจรที่มีความพร้อมในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สะท้อนพันธกิจการเป็น Central to life หรือศูนย์กลางชีวิตของผู้คน อันเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาองค์กรของเรา” นางสาวปิยวรรณ กล่าวสรุป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles