นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.69 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ที่ระดับ 34.75 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.85 บาทต่อดอลลาร์ (ควรระวังความผันผวนในช่วงทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 34.67-34.80 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการทยอยอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น +0.2% จากเดือนก่อนหน้า น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ (+3.3%y/y น้อยกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน) ทำให้ผู้เล่นในตลาดคลายความกังวลต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลงบ้าง พร้อมกับทยอยขายทำกำไรสถานะ Long USD (มองเงินดอลลาร์แข็งค่า) เพิ่มเติม
ส่วนแนวโน้ม เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ในช่วงคืนวันพุธนี้ โดยเงินบาทอาจยังติดโซนแนวต้านแถว 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับก็ยังอยู่แถว 34.60 บาทต่อดอลลาร์ ได้
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 34.60-34.85 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นจากดัชนีเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังเลข PPI เดือนธันวาคม สหรัฐฯ ออกมาที่ 0.2%MOM ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.4% อย่างไรก็ดี US Treasury yields สูงขึ้นเล็กน้อย
นายเรียวโซ ฮิมิโนะ รองผู้ว่าการ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า จะพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แต่หากคาดการณ์เงินเฟ้อไม่สูงขึ้นก็อาจทำให้เงินเฟ้อจริงปรับลดลงได้ ส่งผลให้เงินเยนผันผวน
ขณะที่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยเดือนธันวาคม ออกมาที่ 57.9 สูงขึ้นจากเดือนก่อนที่ 56.9
