นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า นโยบายทรัมป์ 2.0 ทำให้การเงินผันผวน โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศออกมาสอดคล้องกับภาพที่คิดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐน่าจะแข็งแกร่ง แต่การแข็งแกร่งนี้จะนำไปสู่การเกิดเงินเฟ้อหรือไม่ ก็ต้องรอดูจังหวะวิธีการที่เขาจะดำเนินการนโยบายใหม่ แต่หากพูดถึงโดยสภาวะตั้งต้นก็คิดว่าจะสร้างแรกกระตุกให้ระบบเศรษฐกิจโลกแน่นอน ส่วนประเทศไทยเองก็คงหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้
ดังนั้นเราจึงต้องเผชิญกับสถานการณ์ หาวิธีเจรจาเชิงรุก ทำความเข้าใจเขาว่าเขาคิดอย่างไรกับเราก็พอจะช่วยบรรเทาปัญหาในระยะกลางได้ ส่วนระยะสั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ดังจะเห็นได้จากการแกว่างตัวของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐจะปรับลงได้หรือไม่ ซึ่งมีการคุยกันแล้วว่าอาจจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ส่วนเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร ก็ต้องดูว่าการดำเนินนโยบายจะเข้มงวดขนาดไหน เช่น เช้าวันที่ 23 ม.ค.68 เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย จากที่ก่อนหน้านี้ค่าเงินบาทอ่อนตัวพอมีมาตรการใหม่ๆภาษีก็อาจจะกลับไปอีกด้านหนึ่งเช่นกัน จึงเป็นภาวะผันผวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ซึ่งก็ต้องป้องกันความเสี่ยงไม่ควรปล่อยไว้ เพราะถือว่าเป็นสถานการณ์ไม่ปกติ
สำหรับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป ที่รัฐบาลจะโอนวันจันทร์ที่ 27 ม.ค. 68 ว่าจะเป็นพายุหมุนได้หรือไม่นั้น ก็ต้องรอดู ส่วนเงิน 10,000 เฟสแรก ที่พบว่าพายุไม่ค่อยหมุนนั้นก็ต้องเห็นใจรัฐบาล หลังโอนเงินปุ๊บก็เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่จึงสวนกันแต่ผู้สูงวัยก็มีการจับจ่ายใช้สอยแต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีมาตรการอื่นๆ ตามมา แต่เงิน 10,000 บาทเป็นมาตรการกระตุ้น จึงต้องรอดูไปก่อน