นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท วันนี้ เปิดที่ระดับ 33.74 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.55-33.85 บาทต่อดอลลาร์(ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม ECB และช่วง Press Conference ของประธาน ECB)
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.71-33.87 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้างเข้าใกล้โซนแนวต้าน 33.80-33.90 บาทต่อดอลลาร์ ตามการปรับตัวลดลงของ ราคาทองคำ(XAUUSD) ในช่วงก่อนตลาดรับรู้ผลการประชุมเฟด
ทั้งนี้ เงินบาททยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ ส่วนเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ทยอยปรับตัวลดลงบ้าง แม้ว่า เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25%-4.50% ตามคาด อีกทั้งประธานเฟด Jerome Powell ยังย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ยก็ตาม ส่วนผู้เล่นในตลาดยังคงมุมมองเดิมว่า เฟดยังมีแนวโน้มทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ และอีกราว 1 ครั้ง ในปี 2026 อนึ่ง ผู้เล่นในตลาดยังคงไม่รีบร้อนปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ เพื่อรอติดตามผลการประชุม ECB ในช่วงค่ำของวันพฤหัสฯ นี้เช่นกัน
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท ผลการประชุม FOMC ของเฟดในช่วงคืนที่ผ่านมา อาจเรียกได้ว่า เป็น “Non-Event” ที่แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ เรายังคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้น หรืออย่างน้อยก็อาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways เมื่อประเมินตามกลยุทธ์ Trend Following ตราบใดที่เงินบาทไม่ได้กลับมาอ่อนค่าลงชัดเจน เหนือโซนแนวต้าน 34.20 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวัน ก่อนที่ตลาดจะรับรู้ผลการประชุม ECB เรามองว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินบาท ก็อาจขึ้นกับแนวโน้มราคาทองคำด้วยเช่นกัน