นายกรัฐมนตรี แคนาดา นายจัสติน ทรูโด้ แถลงว่า รัฐบาลประเทศแคนาดาเตรียมประกาศใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา ด้วยการประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา คิดเป็นมูลค่า 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือ 107,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.64 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกที่เป็นสินค้าที่ได้รับการเก็บขึ้นอัตราภาษี 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับอัตราภาษีนำเข้า 25% ของสหรัฐมีผลบังคับใช้ จะคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือกว่า 700,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือกว่า 2.91 ล้านล้านบาทจะมีผลภายใน 21 วันนับจากวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025
นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ประธานาธิบดีช้ำประกาศใช้มาตรการเก็บขึ้นภาษีสูงในครั้งนี้จะทำให้เกิดความเสี่ยงกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ และมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การปิดโรงงานหรือบริษัทผลิตรถยนต์ และภาพผลิตอุตสาหกรรมหนักอื่นๆ ในสหรัฐสหรัฐอเมริกา สำหรับสินค้าที่เข้าข่ายจะถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 25% นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาได้แก่ เบียร์ ไวน์ ผลไม้สด น้ำผลไม้ เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาเปิดเผยต่อไปว่า คณะรัฐมนตรีเตรียมที่จะพิจารณานโยบายกีดกันในรูปแบบที่ไม่ใช่ภาษีอีกด้วย ซึ่งจะใช้กับสินค้าประเภทวัตถุดิบแร่ธรรมชาติสำคัญ และการจัดซื้อพลังงานจากสหรัฐอเมริกาด้วย ในปี 2023 ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดาอยู่ที่วันละ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 85,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นปีละกว่า 31 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ในภาพรวมการส่งออกของแคนาดาไปยังสหรัฐอเมริกาในปีที่แล้วมีมูลค่าสูงถึง 550,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือกว่า 12.81 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 3 ใน 4 ของการส่งออกทั้งหมด การส่งออกของแคนาดาไปยังสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 17.8% ของจีดีพีประเทศแคนาดา ซึ่งมีการจ้างงานในแคนาดามากกว่า 2.4 ล้านคน
ด้านประธานาธิบดีหญิงแห่งเม็กซิโก นางคลอเดีย เชนบาม แถลงว่า เตรียม ใช้มาตรการขึ้นภาษี และมาตรการกีดกันที่ไม่อยู่ในรูปแบบภาษีเพื่อตอบโต้กลับสหรัฐสหรัฐอเมริกา ที่ได้ประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 25% กับสินค้าของประเทศเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการใช้มาตรการเก็บขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศเม็กซิโกไม่ใช่ทางแก้แก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกันได้ปฏิเสธ ว่ารัฐบาลประเทศเม็กซิโกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกลุ่มใดๆ ก็ตามที่เข้าข่ายการกระทำผิดเป็นอาชญากรตาม ที่รัฐบาลสหรัฐกล่าวอ้างเกี่ยวกับประชาชนชาวเม็กซิกันที่ลักลอบเข้าสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย