ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 71.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.3% ส่งผลราคาปิดลดลง 2 วันติดกันรวม -2.13 หรือ -2.93% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.09%
ในสัปดาห์ผ่านไปราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด -2.9% และ -2.1% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงครั้งที่ 2 ใน 4 สัปดาห์ที่ปิดขึ้นติดต่อกันผ่านมา ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐเพิ่มสูงมากกว่าที่คาดไว้ อิหร่านเรียกร้องให้สมาชิกในกลุ่มโอเปกพลัสร่วมกันเป็นหนึ่งในการต่อต้านมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐที่มีต่ออิหร่าน รัฐบาลจีนขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าสูงสุด 15% และขึ้นอัตราภาษี 10% กับน้ำมันดิบที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาเป็นการตอบโต้หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐประกาศขึ้นอัตราภาษี 10% กับสินค้านำเข้าจากจีน นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศจะกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรขั้นรุนแรงกับประเทศอิหร่านครั้งใหม่ กลุ่มโอเปกพลัสมีมติคงเดิมกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อเนื่อง นอกจากนี้ สหรัฐเลื่อนการเก็บขึ้นภาษี 25% กับแคนดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 30 วัน
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 40-50 สตางค์/ลิตร ไม่เพียงเป็นการลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 4 ของปี 2025 แต่ยังเป็นการลดราคาครั้งที่ 2 ต่อเนื่อง ส่งผลเป็นราคาขายปลีกต่ำสุดใน 3 เดือน หรือตั้งแต่ 5 พฤศจิกายน 2024