นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ (ตามเวลาสหรัฐ) จะประกาศมาตรการเก็บขึ้นภาษี 25% กับสินค้าเหล็กและอลูมินัมที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยอัตราภาษีดังกล่าวจะเป็นการเก็บเพิ่มเติมจากอัตราภาษีที่เก็บกับทั้ง 2 สินค้าในปัจจุบัน ต่อจากนั้นในวันอังคารหรือไม่เกินภายในวันพุธนี้ จะประกาศมาตรการภาษีสินค้าต่างตอบแทนกับหลากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้สหรัฐอเมริกาทำการค้าขายอย่างเท่าเทียมกันกับนานาประเทศ
สำหรับอัตราภาษีใหม่ที่จะเก็บขึ้นถึง 25% จากอัตราภาษีเดิมของเหล็กและอลูมินัมนั่น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เคยประกาศใช้มาตรการภาษีดังกล่าว ประกอบด้วย เก็บเพิ่ม 25% กับเหล็ก และเก็บเพิ่ม 10% กับอลูมินัม เมื่อครั้งที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐครั้งแรก หรือในปี 2017 แต่ได้รับการประกาศใช้โควต้าปราศจากอัตราภาษีอากรให้กับประเทศยักษ์ใหญ่ ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และบราซิล ต่อมาอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ได้ขยายโควต้าดังกล่าวให้กับอังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป
ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศว่าในวันจันทร์หรือวันอังคารของสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐจะมีการประชุมเพื่อจะประกาศนโยบายภาษีสินค้าต่างตอบแทนกับหลากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้สหรัฐอเมริกาทำการค้าขายอย่างเท่าเทียมกันกับนานาประเทศ สหรัฐไม่ต้องการมากเกินไปในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการน้อยเกินไป
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่านโยบายภาษีสินค้าต่างตอบแทน จะมีอัตราภาษีอยู่ระหว่าง 10 ถึง 20% ซึ่งจะใช้กับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ นโยบายดังกล่าวถือว่ามีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะไม่มีใครได้รับความเสียหาย คู่ค้าประเทศไหนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ สหรัฐก็เก็บอัตราภาษี ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน โดยเฉพาะอัตราภาษีสำหรับรถยนต์ ก็อยู่ในการพิจารณาด้วย ถือว่าเป็นรายการสินค้าขนาดใหญ่ สหรัฐจะต้องทำให้เกิดความเสมอภาคด้วย
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวมาอย่างสม่ำเสมอว่าอัตราภาษีเก็บจากรถยนต์สหรัฐส่งออกไปยังยุโรปมากถึง 10% แต่ในขณะที่สหรัฐเก็บอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปเพียงแค่ 2.5%