นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. เห็นชอบโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม ตามแผนปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพลของ กห. เพื่อปรับลดกำลังพลลงร้อยละ 5 ของยอดกำลังพล ตั้งแต่ชั้นนายพลในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายทหารปฏิบัติการให้เหลือร้อยละ 50 เพื่อให้เกิดความสมดุลกำลังพลในทุกระดับ รวมถึงเป็นการประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐในระยะยาว ทำให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการของ กห. และการพัฒนากองทัพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นการสนับสนุนนโยบายและเจตนารมณ์ของรัฐบาลในปัจจุบัน
โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดของ กห. ให้ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุราชการโดยสมัครใจเพื่อลดความคับคั่งของกำลังพลในกลุ่มชั้นยศสูง โดยให้ข้าราชการทหารที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น ต้องเป็นทหารชั้นยศ พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอกขึ้นไป ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายทหารปฏิบัติการ และประจำหน่วยที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาราชการทวีคูณ) ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินก้อน 7 – 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง โดยไม่รวมเงินหรือค่าตอบแทนพิเศษอื่นๆ
คำนวณตามสูตรดังนี้ เงินก้อนที่ได้รับ เท่ากับ = [5 + อายุราชการที่เหลือ (ปี)] X เงินเดือนเดือนสุดท้ายรวมเงินประจำตำแหน่ง แต่สูงสุดไม่เกิน 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การยกเว้นภาษีเงินก้อนที่ได้รับตามโครงการ การยกเว้นภาษีในส่วนของเงินที่ได้รับจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เป็นต้น เริ่มใช้งบในปี 68 วงเงิน 600 ล้านบาท โดยไม่ต้องของบกลางเพิ่มเติม ดำเนินโครงการ 3 ปี ตั้งแต่ 2568 – 2570 (วงเงิน 200 ล้านบาท/ปี) กลุ่มเป้าหมายช่วง 3 ปี ประมาณ 732 นาย (ปีละ 244 นาย)