นายกรัฐมนตรี ประเทศสิงคโปร์ นายลอว์เรนซ์ หว่อง เปิดเผยว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายที่ต้องการแก้ไขปัญหาคือการแก้ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนชาวสิงคโปร์ดังนั้นภายใต้งบประมาณปี 2025 ที่จะเริ่มต้นที่ 1 เมษายน 2025 นี้เป็นต้นไปจึงได้จัดงบประมาณส่วนหนึ่งประกอบด้วยการแจกเงินสดผ่านบัตรกำนัล หรือ Voucher มูลค่า 800 ดอลลาร์สิงคโปร์ กว่า 21,000 บาท การแจกบัตรกำนัลมูลค่า 800 ดอลลาร์สิงคโปร์ในปีงบประมาณใหม่นี้ เพิ่มสูงขึ้น 200 ดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับปีงบประมาณปัจจุบันที่แจกเพียง 600 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 15,750 บาท
มาตรการจัดเงินสดผ่านบัตรกำนัลให้ประชากรชาวสิงคโปร์มูลค่าดังกล่าว จะแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด โดยงวดแรกจะจ่ายให้ประชาชน 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือว่า 13,215 บาท ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ และส่วนที่เหลือ 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 7,875 บาท จะแจ้งให้ทราบภายหลัง
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่าขณะนี้ประชาชนสิงคโปร์กำลังปรับตัวให้เข้ากับ ภาวะค่าครองชีพที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นชาวสิงคโปร์บางรายต้องรัดเข็มขัดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย มีพฤติกรรมที่จะต้องทบทวนการใช้จ่าย หรือมีความจำเป็นจะต้อง ที่จะต้องตัดรถใช้จ่ายหรือขายสินทรัพย์บางอย่าง เพื่อบริหารจัดการรายจ่ายที่อยู่ในระดับสูง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ยืนยันในความสำเร็จในมาตรการแจกเงินสดให้กับประชาชนสิงคโปร์ ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทำให้ปัญหาดังกล่าวลดน้อยลงต่ำสุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวต่อไปว่าประเทศสิงคโปร์ไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งเฉยๆ ได้อีกต่อไป สถานการณ์การแข่งขันของเศรษฐกิจทั่วโลกทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลากหลายประเทศหรือแม้แต่เมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ล้วนสร้างแรงกดดันที่ต้องการจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวก้าวล้ำไปกว่าสิงคโปร์ ถ้าสิงคโปร์ล้มเหลวในความสามารถในการแข่งขัน สิงคโปร์จะตกอยู่ในสภาวะล้าหลัง
นอกจากนี้รัฐบาลสิงคโปร์จะดำเนินมาตรการลดค่าของชีพให้แก่ประชาชนชาวสิงคโปร์ในปีงบประมาณใหม่โดยการออกโครงการคืนเงินสูงถึง 2 เท่าให้กับครัวเรือนสิงคโปร์ใช้สำหรับจ่ายค่าสาธารณูปโภคได้แก่ค่าไฟฟ้า ค่าประปา เช่นเดียวกันกับรัฐบาลจะแจกเงิน 500 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 13,125 บาท เป็นเงินล่วงหน้าให้เฉพาะกับครอบครัวชาวสิงคโปร์ที่มีเด็กเล็กอายุ 12 ปีลงมา นอกจากนี้รัฐบาลสิงคโปร์ยังมีโครงการอื่นๆเช่นเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเล่าเรียนการศึกษา การเพิ่มเงินกองทุนบำนาญ และการขยายมาตรการช่วยเหลือขึ้นให้กับครัวเรือนสิงคโปร์ที่มีรายได้ต่ำ
ในแง่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภาพรวมหรือภาพใหญ่นั้น นายลอว์เรนซ์ หว่อง ได้ประกาศว่ารัฐบาลสิงคโปร์จะเพิ่มงบประมาณขึ้นอีก 5,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 131,250 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงสนามบินนานาชาติชางฮี มาตรการด้านภาษี จูงใจให้บริษัทเอกชนและกองทุนเพื่อการลงทุนในตลาดทุนต่างๆสามารถนำไปหักลดหย่อนได้เมื่อตัดสินใจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
รัฐบาลสิงคโปร์เพิ่มงบประมาณขึ้นอีก 3,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 78,750 ล้านบาทใส่เข้าไปในกองทุนประสิทธิภาพแห่งชาติ และลงทุนในการพัฒนาและสร้างศูนย์วิจัยพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ด้วย ดังนั้น ในปีงบประมาณใหม่ 2025 ที่จะเริ่มต้นวันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้จัดงบประมาณสูงถึง 124,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 3.26 ล้านล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์มีงบประมาณเกินดุล ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 6,800 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 178,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากรายได้เสียภาษีเพิ่มขึ้นจากภาคเอกชน และรายได้จากภาษีบริโภคของภาคประชาชน
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ผ่านไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่าภาวะเศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 หรือจีดีพี สามารถขยายตัวได้สูงถึง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ส่งผลให้ ตัวเลขจีดีพีดังกล่าวขยายตัวสูงกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.3% และยังเป็นไปตามตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อีกด้วย
ผลพวงจากเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดการณ์นั้น ทำให้ตลอดทั้งปี 2024 เศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวแตะที่ระดับ 4.4% ทำสถิติภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีที่สุดในรอบ 3 ปีผ่านมา หรือนับแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ดังนั้น เศรษฐกิจสิงคโปร์ที่ขยายตัวสูงถึง 4.4% ในปีผ่านไป จึงเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของรัฐบาลที่ระดับ 4% และนักเศรษฐศาสตร์ด้วย
ทั้งนึ้ นายลอว์เรนซ์ หว่อง รับช่วงต่อและเปลี่ยนผ่านเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันต่อจากนายลี เซียนลุง อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ซึ่งก้าวลงจากตำแหน่ง เดือนพฤษภาคมปี 2024 ที่ผ่านมา ภายในเดือนพฤศจิกายนปี 2025 นี้รัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศสิงคโปร์ซึ่งจะถือได้ว่าเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีนายลอว์เรนซ์ หว่อง