ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 70.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.87% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +2.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.14% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 74.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.68% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +1.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.48% ทำให้เป็นราคาน้ำมันปิดลดลงจากระดับราคาปิดสูงสุดใน 1 สัปดาห์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หรือนับตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด -0.5% และ -0.4% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากภาคอุตสาหกรรมพลังงานด้านน้ำมันในสหรัฐอเมริกา พบจำนวนแหล่งจุดเจาะน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นถึง 592 จุดในสหรัฐ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลทำสถิติมากสุดในรอบ 8 เดือน หรือตั้งแต่มิถุนายน 2024 ขณะที่ปริมาณส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศคาซัคสถานผ่านท่อส่งน้ำมันดิบซีพีซีกลับไม่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายหลังถูกโจมตีด้วยโดรนติดขีปนาวุธของกองทัพยูเครน
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30 สตางค์/ลิตร นับ เป็นการปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่งผลเป็นราคาขายปลีกสูงสุดใน 2 สัปดาห์เศษ หรือตั้งแต่ 5 กุมภาพันธ์ 2024
