วันนี้ (25 ก.พ. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมได้พูดคุยประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ที่สร้างปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเน้นเรื่องการดำเนินการซีล (Seal) ชายแดนในพื้นที่ 14 จังหวัด ซึ่งได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประเทศจีนและประเทศเมียนมา ส่วนด้านผู้กระทำผิดที่ถูกจับกุม กระทรวงกลาโหมได้ประสานไปยังประเทศปลายทาง เพื่อดำเนินการให้รับตัวกลับไปโดยเร็ว และขอให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่จะตามมา
สำหรับประเด็นความร่วมมือระหว่างประเทศจีนและเมียนมานั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้ดำเนินการจัดตั้งไตรภาคีเพื่อดำเนินการพูดคุยแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมเข้มเจ้าหน้าที่ หากพบการทุจริตให้มีการดำเนินการตามกฎหมายทันที ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรายงานว่าได้บูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บริษัทโทรคมนาคม ดำเนินการรื้อถอนเสาสัญญาณที่ใกล้เขตพื้นที่ชายแดน ปรับลดความสูงและความแรงในการส่งสัญญาณ
นอกจากนี้ ได้หันหน้าจานสัญญาณเข้าสู่ชายแดนไทย และทำการตัดสัญญาณ SIMBOX ที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อตัดเบอร์เครือข่ายที่ใช้สัญญาณมากจนเป็นที่น่าสงสัย ซึ่งประเด็นดังกล่าวรัฐบาลจะดำเนินการอย่างจริงจังทั้งในส่วนของประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน เมียนมา หรือกัมพูชา โดยย้ำว่าจะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อตรวจดูพื้นที่ด้วยตนเอง และจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้หมดไปจากประเทศไทยโดยเร็ว หากประเด็นดังกล่าวยังไม่จบ ก็จะไม่เลิก และจะดำเนินการอย่างจริงจัง ปัจจุบันประเด็นการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไทยได้รับเสียงตอบกลับจากหลายประเทศไปในทิศทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความร่วมมือ ตัวอย่างในการจัดการ เพราะฉะนั้นในประเด็นของการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าประเทศไทยได้ดำเนินการจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเพื่อนบ้านด้วย
