นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร-กลุ่มสายงานบริหารพื้นที่ศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) กล่าวว่า กลยุทธ์ของซีพี แอ้กซตร้า นอกจากเป็นผู้นำร้านค้าปลีกค้าส่ง ก็ยังมุ่งมั่นเป็นผู้นำศูนย์ธุรกิจการค้าและอสังหาริมทรัพย์ด้วย เป็นการต่อยอดจากจุดแข็งจากธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง
โดยปัจจุบันบริษัทบริหารพื้นที่เช่าทั่วประเทศปัจจุบันมากกว่า 1.5 ล้านตร.ม. โดยมีแผนจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ธุรกิจด้านศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการสาขามากขึ้นได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันรายได้และกำไรจากพื้นที่เช่าก็ถือเป็นสาระสำคัญ ที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจสามารถต่อยอดในการสร้างหรือเพิ่มมูลค่าธุรกิจต่อไป
สำหรับแผนงานที่จะดำเนินการศูนย์ธุรกิจการค้า และอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่
1.Mall Improvement ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงร้านเดิมให้เหมาะสมกับยุคสมัยมากขึ้นปรับรูปลักษณ์ให้เหมาะสมกับชุมขน เน้นการสร้าง Foot Traffic ปรับรูปลักษณ์ให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น และสร้างความจงรักภักดีระยะยาว โดยได้เริ่มปรับปรุง แม็คโคร สาทร และจรัลสนิทวงศ์ ที่เดิมไม่มีรูปแบบช้อปปิ้งมอลล์ โดยเข้าปรับปรุงรูปแบบใหม่ให้ทันสมัยดึงดูดคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในแผนระยะยาว 3-5 ปี มีแผนปรับปรุงสาขาเดิม 87 แห่ง
2. Mall Expansion จะขยายพื้นที่ในพื้นที่เช่าเดิม หรือแม้แต่มีเพียงร้านค้าไม่มีพื้นที่เช่าเราก็จะสามารถเข้าไปปรับปรุงต่อเติมเพื่อให้พื้นที่เดิมใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ให้เป็น Mall ที่สามารถกลับมาสร้างรายได้ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางชุมชนมากขึ้น ซึ่งบริษัทได้ลงไปดู Strategic Location ต่างๆ และได้เริ่มแผนการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง อาทิ โลตัส สระบุรี ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็น Mall ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมมีพื้นที่เช่า 5 พันตร.ม.ก็ขยายขึ้นมาเป็น 3 หมื่นตร.ม. ฉะนั้นกลยุทธ์นี้จะช่วย unlock Value อสังหาฯ โดยมีแผนจะต่อเติมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ประมาณ 100 โลเคชั่นทั่วประเทศ
3. Community Center สร้าง Mall ขนาดใหญ่ ซึ่งเรามองดู Opportunity ของอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวม และ Unlock Value โลเคชั่นอสังหาฯของบริษัทเมื่อ 30 ปีที่แล้วอยู่นอกเมือง มูลค่าที่ดินไม่สูงนักแต่ปัจจุบันโลเคขั่นดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่เมืองที่มีมูลค่าสูง สามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามากขึ้นได้ ทั้งนี้ ในการพิจารณาในการทำเป็น Community Center ในเบื้องต้นบริษัทได้คัดเลือกมาแล้ว 16 โลเคชั่น
ปัจจุบัน โครงการนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดในไตรมาส 1/69
นายสมพงษ์ กล่าว่า บริษัท ยังคงยืนยันว่า โครงการ Happitat จากการศึกษาสามารถให้ Return หรือ IRR ในระดับ 10% ที่เป็นอัตรามาตรฐานที่บริษัททำได้ในร้านค้าขนาดใหญ่ และโครงการนี้จะเป็นการต่อยอดสำคัญของ Community Center และน่าจะเป็นรูปแบบสำคัญที่จะทำให้ภาพ Community Center ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถนำมาใช้ต่อยอดธุรกิจของบริษัทต่อไปในอนาคต
จากแผนงานดังกล่าว รวมถึงการสรรหาพื้นที่โลเคชั่นใหม่ บริษัทคาดว่าในปี 68 จะสามารถเพิ่มพื้นที่เช่าอีก 80,000 ตร.ม. (รวมโครงการ Happitat) และอีก 4 ปีข้างหน้า หรือ ปี 72 คาดว่าพื้นที่เช่าจะเพิ่มขึ้นอีก 240,000 ตร.ม.
นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร-กลุ่มค้าส่ง CPAXT กล่าววา แนวโน้มการเติบโตปี 68 จากที่ไม่เติบโตมา 2 ปีแล้ว ปีนี้เห็นนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหนุนธุรกิจค้าส่งให้เติบโตได้ ส่วนธุรกิจค้าปลีกได้ Turnaround มา 2 ปีแล้ว จึงคาดว่ายอดขายปี 68 จะเติบโต High single digit แต่ช่วงตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ยังเติบโต Low single digit โดยเป้าหมายในปี 68 จะมีการขยายเครือข่ายสาขาค้าส่งและค้าปลีกอย่างต่อเนื่อง และเน้น Omni Chanel ที่เป็น Growth Engin ที่สำคัญของยอดขาย จะเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้จะใช้สาขา เป็นจุดกระจายสินค้า เพื่อครอบคลุมการส่งสินค้าให้ถึงลูกค้าอย่างรวดเร็ว พร้อมบริการ on demand แบบ same day และ next day
การพัฒนาช้อปปิ้งมอลล์สู่ Smart Community Mall สร้างพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทุกวัย ส่วนแผนการลดหนี้ เนื่องจากเรามีกระแสเงินสดเข้ามาทุกวันจากการขายและบางส่วนชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น ส่วนเงินกู้ระยะยาว บริษัทจะออกหุ้นกู้ ซึ่งในช่วงกลางปีนี้จะออกหุ้นกู้ทดแทนรุ่นเก่า อัตราดอกเบี้ยก็จะลดลง ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง
ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ หากดูการเติบโตประเทศเพื่อนบ้าน มองว่ามีโอกาสขยายประเทศที่มีสาขาอยู่แล้ว ได้แก่ มาเลเซีย กัมพูชา ส่วนในระเทศที่จะเปิดสาขาใหม่ ต้องดูว่าบริษัทมีโอกาสเข้าไปทำกำไรเร็วหรือไม่ ถ้าเราสามารถบริหารจัดการให้มีกำไรใน 2 ปีก็น่าสนใจ
ปัจจุบัน CPAXT มีจำนวนสาขาค้าส่ง (แม็คโคร)ในประเทศ 165 สาขา ในต่างประเทศ 10 สาขา เป็นกัมพูชา 3 สาขา อินเดีย 6 สาขา และเมียนมา 1 สาขา ส่วนค้าปลีก (โลตัส) ในประเทศ 2,483 สาขา ต่างประเทศ 70 สาขาอยู่ในมาเลเซีย โดยแยกเป็นค้าส่ง 175 สาขารวมพื้นที่ 945,769 ตร.ม. และค้าปลีก 2,553 สาขา รวมพื้นที่ 1,815,696 ตร.ม.