นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย เงินบาท วันนี้เปิดที่ระดับ 33.76 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.70 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.60-33.90 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงบ้าง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 33.67-33.84 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 33.80-33.90 บาทต่อดอลลาร์ อีกครั้ง ตามการปรับตัวลงหนักของ ราคาทองคำ (XAUUSD) ไม่ต่างจากการเคลื่อนไหวในช่วงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ก่อนหน้า แต่ยังเสี่ยงที่จะเผชิญความผันผวนลักษณะ Two-Way Volatility โดยต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าลงของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง หลังเงินดอลลาร์มีจังหวะย่อตัวลงสอดคล้องกับการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่กลับมาเชื่อว่า เฟดมีโอกาสราว 33% ในการลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ และมีโอกาสมากขึ้น ที่เฟดอาจจะสามารถลดดอกเบี้ยได้เกิน 1 ครั้ง ในปี 2026 หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะนี้ ยังคงออกมาผสมผสาน
ทั้งนี้ การปรับตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ถูกจำกัดลง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากยุโรป รวมถึงเม็กซิโกและแคนาดา ส่งผลให้สกุลเงินฝั่งยุโรป อย่าง เงินยูโร (EUR) พลิกกลับมาทยอยอ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ ตลาดอาจเริ่มกลับมากังวลประเด็นนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งอาจหนุนให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง
ด้าน กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.70-33.90 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าหลัง กนง. มีมติลดดอกเบี้ย แต่กลับมาแข็งค่าขึ้นหลังไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อ อย่างไรก็ดี SCB FM มองว่ามีโอกาสที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ สอดคล้องกับมุมมองของตลาด
อีกทั้ง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านแผนการจัดเก็บภาษีและการใช้จ่าย ซึ่งปูทางไปสู่การขยายเวลาการลดภาษีชั่วคราว ผ่านการตัดลดงบประมาณในโครงการสวัสดิการสังคม US Treasury yields ลดลงต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจที่ชะลออาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยได้
