ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าวันที่ 7 มีนาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 63.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.5% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.08% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 69.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.5% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +1.06 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.46%
ในสัปดาห์ผ่านไปพบว่าราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาดโลก ปิดที่ -3.9% และ -3.8% ตามลำดับ ส่งผลทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่ 21 มกราคม 2024 และดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือตั้งแต่ 11 พฤศจิกายน 2024 นอกจากนี้ยังเป็นราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ รายสัปดาห์ที่ปิดลดลงถึง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน ทำสถิติยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือนกว่า สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ รายสัปดาห์ที่ปิดลดลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเกิดถดถอยจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูงมากขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลต่อความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกลดต่ำลง
อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ผ่านมาว่าเตรียมจะพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซียทั้งทางด้านการเงิน และด้านภาษีการค้า สาเหตุจากกองทัพรัสเซียยังคงโจมตีประเทศยูเครนในปัจจุบัน ขณะที่ นักลงทุนชะลอและประเมินผลกระทบจากความไม่แน่นอนของมาตรการเก็บภาษีขึ้น 25% ของประธานาธิบดีสหรัฐที่มีกับแคนาดาและเม็กซิโก หลังจากลงนามเก็บกับสินค้าใช้สิทธิเฉพาะข้อตกลงการค้าเสรี USMCA ชะลอไปอีก 1 เดือน ขณะที่ ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาพบว่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 3.6 ล้านบาร์เรลซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 341,000 บาร์เรล ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า ทุกๆ 1% ของจีดีพีสหรัฐชะลอตัวลง ส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงถึงวันละ 180,000 บาร์เรล
ทั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 11 มีนาคมนี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 30-40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 3 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา ส่งผลเป็นราคาขายปลีกต่ำสุดใน 1 ปี 8 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2023