บอร์ดนิสสันไฟเขียวซีอีโอ มาโกโตะ ลงจากตำแหน่ง 1 เมษายนนี้ ดันประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนขึ้นนั่งซีอีโอคนใหม่ สื่อยุโรปชี้ฮอนด้าพร้อมคุยควบรวมนิสสันต่อไป ถ้าซีอีโอนิสสันคนปัจจุบันลงจากตำแหน่ง

บอร์ด นิสสัน ไฟเขียวซีอีโอ มาโกโตะ ลงจากตำแหน่ง 1 เมษายนนี้ ดันประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนขึ้นนั่งซีอีโอคนใหม่ สื่อยุโรปชี้ฮอนด้าพร้อมคุยควบรวมนิสสันต่อไป ถ้าซีอีโอนิสสันคนปัจจุบันลงจากตำแหน่ง

การประชุมคณะกรรมการบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น สิ้นสุดลง และเปิดแถลงว่าคณะกรรมการมีมติให้นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีโอ นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น ลงจากตำแหน่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2025 เป็นต้นไป ในขณะเดียวกัน มีมติให้นายอีแวน เอสพิโนซ่า ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานวางแผน หรือซีพีโอ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนใหม่ มีผลในวันที่ 1 เมษายน 2025 นี้

สำหรับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งซีอีโอใหม่ในครั้งนี้ นับเป็นซีอีโอคนที่ 4 ในช่วงระยะเวลาน้อยกว่า 6 ปีผ่านมาของนิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามคณะกรรมการของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ได้กำหนดบทบาทและหน้าที่ให้นายอีแวน เอสเพียโนซ่า มีอำนาจบริหารในลักษณะรักษาการไปจนกว่าคณะกรรมการจะมีมติสรรหา และแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่อย่างถาวรต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 สำนักข่าวไฟแนนซ์เชียล ไทม์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังด้านเศรษฐกิจการเงินการลงทุนในอังกฤษและยุโรป รายงานว่า ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมที่จะเดินหน้าเจรจาพูดคุยเพื่อควบรวมกับนิสสัน มอเตอร์ ถ้านายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ นิสสัน มอเตอร์ ค่ายผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น ลงจากตำแหน่งดังกล่าว

รายงานข่าวดังกล่าว เปิดเผยต่อไปว่า ต้องการผู้บริหารระดับสูงของนิสสัน มอเตอร์ ที่สามารถบริหารความขัดแย้ง หรือความไม่ลงรอยกันซึ่งเกิดขึ้นภายในเป็นหลัก ขณะที่มีรายงานว่า นายโตชิฮีโร่ มิเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ฮอนด้า มอเตอร์ มีแผนการที่จะควบรวมกิจการนิสสันมอเตอร์ในลักษณะแบบไม่เป็นมิตร หรือ Hostile Takeover แต่อย่างใด

ไฟแนนซ์เชียล ไทม์ รายงานเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการของบริษัทนิสสัน มอเตอร์จะมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ หรือพูดคุยนอกรอบ เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหลือในการบริหารงานของนายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอคนปัจจุบัน

ฮอนด้า มอเตอร์ เป็นผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น และนิสสัน มอเตอร์ เป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่อันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่การเจรจาควบรวมระหว่างทั้ง 2 ค่ายต้องสิ้นสุดลงเมื่อในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความคาดหวังที่ทั้ง 2 ค่ายรถยนต์จะจับมือกันขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลกต้องหายไป

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ผ่านมา นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานนิสสัน มอเตอร์ ค่ายผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ในประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าพบกับนายโตชิฮิโร มิเบะ ประธานฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อชี้แจงว่านิสสันมีความต้องการยกเลิกการเจรจาเพื่อควบรวม หลังจากมีรายงานในสำนักข่าวญี่ปุ่นหลายแห่งว่า ฮอนด้าต้องการให้นิสสันกลายเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในฝั่งนิสสันได้เห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์ว่าการเจรจาควบรวมนั้นไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ภายใต้ประเด็นดังกล่าว แหล่งข่าวรายเดียวกัน เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์หน้า นิสสันจะสรุปการตัดสินใจอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการถอนตัวจากบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ หรือ MOU กับฮอนด้า ซึ่งจะต้องมีขึ้นก่อนการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของนิสสัน ด้านสำนักข่าวเอ็นเอชเค (NHK) รายงานวันนี้ว่า จุดยืนของฮอนด้า คือ จะไม่ยอมรับการควบรวมใดๆ ถ้าหากนิสสันไม่ยินยอมตกลงเปลี่ยนแปลงสถานะมาเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า

ในเวลานั้นสำนักข่าวในญี่ปุ่น และต่างประเทศได้รายงานข่าวนิสสัน เปิดเผยว่าได้ยกเลิกการเจรจาการควบรวมกับฮอนด้า สาเหตุของการยุตติการเจรจาควบรวมของทั้งสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นในครั้งนี้แหล่งข่าวระดับสูง 2 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเจรจาดังกล่าวเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายมีปัญหาในความซับซ้อนในการเจรจาเนื่องจากความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดและสิ้นเชิง

นิสสัน มอเตอร์ ตัดสินใจถอนบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู ซึ่งมีการลงนามระบุรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนและกรอบเวลาของการเจรจาควบรวมที่ได้ลงนามกันระหว่างฮอนด้า มอเตอร์และนิสสัน มอเตอร์ ในงานแถลงข่าวขิงทั้ง 2 ค่ายเมื่อสัปดาห์สุดท้ายในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา

สาเหตุสำคัญในการถอนบันทึกเอ็มโอยูดังกล่าวมีสาเหตุมาจากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ และไม่มีข้อยุติในการตีค่าประเมินมูลค่าของแต่ละฝ่ายภายใต้โครงสร้างของบริษัทโฮลดิ้งส์ที่จะจัดตั้งขึ้นในอนาคต โดยมีทั้ง 2 ฝ่ายเข้าถือหุ้น และฝ่ายฮอนด้าเป็นฝ่ายถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า นอกจากนี้ นิสสัน มอเตอร์ ปฏิเสธการเปลี่ยนสถานะไปเป็นบริษัทในเครือของโครงสร้างบริษัทโฮลดิ้งส์ใหม่ด้วย

ในขณะเดียวกันคณะกรรมการของนิสสัน มอเตอร์ จะมีการจัดประชุมเร็วๆนี้ เกี่ยวกับการยกเลิกการเจรจาควบรวมกับฮอนด้า มอเตอร์ หลังจากเมื่อวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดของประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานว่าฮอนด้า มอเตอร์ส่งสัญญาณว่านิสสัน มอเตอร์ จะกลายเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า มอเตอร์ หนึ่งในแหล่งข่าวระดับสูงของทีมเจรจา เปิดเผยว่าข่าวดังกล่าวเปรียบเสมือนกับการกระตุกความตั้งใจโดยการใช้วิธีการเจรจา ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการของการควบรวมที่นำไปสู่ความเสมอภาคกัน

นายคริสโตเฟอร์ ริชเทอร์ นักวิเคราะห์อาวุโส กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จากสถาบันการเงินซีแอลเอสเอ (CLSA) เปิดเผยว่า รายงานข่าวดังกล่าวชี้ให้เห็นค่ารถยนต์นิสสันไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทในเครือของฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งทำให้กลายเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของการควบคุมที่ถกเถียงอย่างมาก เมื่อไม่มีอำนาจในการควบคุมบริหารจัดการ สิ่งนี้ทำให้ฮอนด้ากำลังเดินจากไปจากดิวการเจรจาดังกล่าว

สำนักข่าวชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นหลายแห่งล้วนรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่านิสสัน มอเตอร์ เผชิญความยากลำบากในการที่จะสรุปแผนการปรับโครงสร้างและการฟื้นฟูธุรกิจรถยนต์นิสสัน ตามที่เคยประกาศไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปี 2024 ที่ผ่านมา นิสสันประกาศว่าจะมีการปลดพนักงานจำนวน 9,000 คน หรือคิดเป็น 7% ของพนักงานที่มีอยู่ในปัจจุบันทั่วโลก พร้อมกับรถกำลังการผลิตรถยนต์ลงถึง 20% ในภาพรวมของโรงงานนิสสันที่มีอยู่ทั่วโลก

แหล่งข่าวระดับสูงในนิสสัน มอเตอร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวนิกเคอิ ว่าแผนปฏิบัติการฟื้นฟูกิจการรถยนต์ของนิสสันต้องเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากมีการต่อต้านและไม่เห็นด้วยจากพนักงานนิสสันในแต่ละภูมิภาคที่บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ได้กำหนดแผนการตัดลดค่าใช้จ่ายไว้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2024 ฮอนด้า มอเตอร์ และนิสสัน มอเตอร์ เปิดแถลงข่าวด้วยแถลงการณ์ร่วมของทั้ง 2 บริษัท พร้อมกับลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ร่วมกัน ว่าให้มีการกำหนดเป้าหมายในการควบรวมภายในเดือนสิงหาคม ปี 2026 โดยใช้รูปแบบการจัดตั้งบริษัทประเภทโฮลดิ้งส์ คอมพานี นอกจากนี้ ด้านโครงสร้าง และสายการบริหารของบริษัทโฮลดิ้ง คอมพานี แห่งนี้ ฮอนด้า มอเตอร์ จะส่งผู้บริหารระดับสูงนั่งในตำแหน่งประธานบริษัทโฮลดิ้ง คอมพานี และกรรมการโดยส่วนใหญ่จะถูกแต่งตั้งโดยฮอนด้าเข้านั่งบริหารร่วมกับกรรมการที่แต่งตั้งมาจากนิสสัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันที่จะดำเนินการเจรจาในรายละเอียดของการควบรวมให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2025 นี้

แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 2 บริษัท เปิดเผยต่อไปว่า ศักยภาพของพลังประสานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายจะส่งผลให้การควบรวมของฮอนด้าและนิสสันกลายเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมการเคลื่อนที่ระดับโลกที่จะมียอดขายรวมกันกว่า 30 ล้านล้านเยน หรือ 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.7 ล้านล้านบาท และจะมีกำไรรวมกันกว่า 3 ล้านล้านเยน หรือกว่า 670,000 ล้านบาท พลังประสานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ที่ได้จากการเจรจาควบรวมมีทั้งหมด 7 ด้าน เช่น การรวมกันของการทำงานด้านวิจัยและพัฒนา การผลิตที่ได้ขนาดดีที่สุด ซึ่งจะได้จากแพลทฟอร์มการผลิตยานยนต์ที่เป็นมาตรฐาน การเสริมความแข็งแกร่งด้านขีดความสามารถในการแข่งขันที่ได้จากเครือข่ายการผลิต และการมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles