นายกฯสั่ง คมนาคม สอบปมคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว ฟันโทษผู้รับเหมาคดีอาญา หากพบผิดจริง ดันมาตรการสมุดพกเสร็จ-บังคับใช้ เม.ย. 68 ขู่ตัดแต้มลดชั้น-งดรับงาน

นายกฯสั่ง คมนาคม สอบปมคาน สะพานก่อสร้างทรุดตัว ฟันโทษผู้รับเหมาคดีอาญา หากพบผิดจริง ดันมาตรการสมุดพกเสร็จ-บังคับใช้ เม.ย. 68 ขู่ตัดแต้มลดชั้น-งดรับงาน

จากกรณีคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบทั้งบาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าภายหลังจากการประชุมเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการและกำชับให้กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การกับกำดูแล หารือเพื่อเร่งมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดในการดำเนินการก่อสร้างทุกโครงการ พร้อมกับเร่งจัดทำมาตรการการลงโทษที่รุนแรงต่อผู้รับเหมาที่กระทำความผิด หากพบผิดจริงต้องพิจารณาไม่ให้ประมูลงานหรือยื่นรับงานอีกต่อไป

ทั้งนี้มาตรการที่เริ่มใช้ได้ทันทีระหว่างรอมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาบังคับใช้นั้น คือ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 หมวด 12 มาตรา 109 นำไปสู่ลักษณะเป็นการทิ้งงาน แต่อย่างไรก็ตามยังต้องดุลยพินิจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการตัดสิน ซึ่งต่างจากมาตรการสมุดพก หากเริ่มบังคับใช้จะมีเงื่อนไขที่ชัดเจนในการตัดสินการลงโทษผู้กระทำความผิดทันที

อีกทั้ง ทางกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมที่จะดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้เร่งทำมาตรการ “สมุดพกผู้รับเหมา” ให้แล้วเสร็จพร้อมบังคับใช้ได้ทันทีภายในเดือนเมษายน 2568 จากเดิมที่คาดว่าแล้วเสร็จช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะใช้ได้ผลอย่างแน่นอน เนื่องด้วยหากมีผู้รับเหมากระทำผิด และโดนหักคะแนน จะไม่รับงานได้อีก ซึ่งมีผลต่อผลประกอบการบริษัทรายนั้น และส่งผลเชิงลบต่อการรับงานที่อื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับสาเหตุของคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งตรวจสอบ โดยคาดใช้เวลา 1 เดือน หากผลสอบพบกระทำผิดจริงจะดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทันที

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles