ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าเมื่อวันที่ 18 มีนาคม2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 41,581 จุด -260 จุด หรือ -0.62% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,614 จุด -60 จุด หรือ -1.07% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,504 จุด -304 จุด หรือ -1.71% ส่งผลหยุดดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +1,027, +153 และ +505 จุด หรือ +2.51%, +2.78% และ +2.92% ตามลำดับ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -3.1%, -2.0% และ -2.0% ตามลำดับ ส่งผลให้เป็นดัชนีหุ้นดาวโจนส์รายสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่มีนาคม 2023 ขณะที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดครายสัปดาห์ ปิดร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
สาเหตุจากนักลงทุนไม่มั่นใจในสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่ปะทุครั้งใหม่ หลังสิ้นสุดวันหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา นอกจากนี้รอฟังผลการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งประชุม 2 วันติดกัน และมุมมองของประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่จะมีขึ้นในคืนวันนี้
อย่างไรก็ตามความกังวลในความไม่แน่นอนสูงของมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของประธานาธิบดีสหรัฐส่งผลต่อแนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ที่สำคัญ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา นายโฮวาร์ด ลุทนิค กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอาจจะคุ้มค่า เพื่อที่จะให้นโยบายด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่