พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี เปิดเผยข้อมูลความคืบหน้า ผลการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมและแผนงานโครงการระบบขนส่งมวลชน โมโนเรล จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวปทุมธานี เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ตลอดจนเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้า การศึกษา และการคมนาคมระหว่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรติดขัด และปัญหามลพิษจากฝุ่นเมือง PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายในงานร่วมกันแถลงถึงการดำเนินการศึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ระบบขนส่งมวลชนจังหวัดปทุมธานี (โมโนเรลปทุมธานี-รังสิต) 3 ประเด็นหลัก คือ
1. ความเหมาะสมทางวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม และการเงิน
2. การออกแบบกรอบรายละเอียด ประมาณราคาค่าก่อสร้าง จัดทำแผนงานก่อสร้าง และจัดทำเอกสารประกวดราคา
3. ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งในปัจจุบันการศึกษาทั้ง 3 ประเด็นแล้วเสร็จ
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ผลการศึกษาพบว่า จังหวัดปทุมธานีมีแนวเส้นทางที่มีศักยภาพในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด 5 เส้นทาง ระบบขนส่งที่เหมาะสมที่สุด คือ ระบบรถไฟฟ้าทางเดี่ยว (Monorail) เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการก่อสร้าง ใช้พื้นที่น้อย ลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและชุมชนทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
โดยวางแผนให้มีการก่อสร้างเป็นระยะทั้งสิ้น 3 ระยะ กำหนดเส้นทางนำร่องที่มีศักยภาพในการดำเนินการ 2 เส้นทาง รวมระยะทาง 24.09 กิโลเมตร ได้แก่
1.เส้นทางรังสิต-วัดเขียนเขต-คลองสี่ ระยะทางทั้งสิ้น 16.66 กิโลเมตร 12 สถานี (A4-A12) จุดเริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง (สถานีรังสิต) ผ่านศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-วิ่งตัดเข้าถนนรังสิตนครนายก-เลี้ยวเข้าถนนลำลูกกาคลองสี่ (ปท.30197)-สิ้นสุดทางที่ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานีคลองสี่)
2.เส้นทางวัดเขียนเขต-สถานีสวนสัตว์แห่งใหม่ (คลองหก) ระยะทาง 7.43 กิโลเมตร 6 สถานี (B1-B6) จุดเริ่มต้นที่วัดเขียนเขต (ถนนรังสิต-นครนายก)-วิ่งไปสิ้นสุดที่สถานีสวนสัตว์แห่งใหม่ (คลองหก)
ทั้ง 2 แนวเส้นทาง จะมีศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง บริเวณศูนย์วิจัยข้าว จุดจอดและจร 1 แห่ง บริเวณสถานีสวนสัตว์แห่งใหม่ (คลองหก) และจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สถานีวัดเขียนเขต (สถานี A6/สถานี B1) ซึ่งโครงสร้างส่วนใหญ่วางบนเกาะกลางถนนรังสิตนครนายก และถนนลำลูกกาคลองสี่ (ปท.3017) คาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในปี พ.ศ. 2575 ทั้งสองเส้นทาง อยู่ที่ 79,234 คน/วัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,332 คน/วัน ในปี พ.ศ. 2604 โดยประเมินอัตราค่าโดยสารที่ 20 บาทตลอดสาย
ด้านความเหมาะสมด้านเศรษฐศาสตร์ มูลค่าลงทุนโครงการรถไฟฟ้าทางเดี่ยว 2 เส้นทางในจังหวัดปทุมธานี ประมาณ 26,000 ล้านบาท มีผลวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) เท่ากับ 15.49% และอัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C Ratio) เท่ากับ 1.41 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเป็นเจ้าของโครงการ ภายใต้การกำกับของกระทรวงมหาดไทย และหาแหล่งรายได้เพิ่มเติม เช่น พัฒนาพื้นที่รอบสถานี พื้นที่ใกล้เคียง ให้สิทธิ์เชื่อมต่อสถานี เพื่อลดค่าใช้จ่ายของการลงทุนและให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในสัดส่วนที่น้อยกว่าโครงการรถไฟฟ้าอื่น
โดยหากโครงการนี้ดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางของประชาชนในพื้นที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ช่วยลดเวลาการเดินทาง ช่วยประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะและลดค่าใช้จ่ายทำให้การใช้ชีวิตในปทุมธานีสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของปทุมธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนในพื้นที่