ไทยฮอนด้าจัดเต็มรถพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรก “Honda e:N1” เปิดตัวไลน์อัปผลิตภัณฑ์หลากหลาย พร้อมเสิร์ฟหนักกับแคมเปญและข้อเสนอพิเศษสุดปังในงาน Motor Show 2025

ฮอนด้า โดย บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลัง ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ที่พร้อมสร้างความสุขและขับเคลื่อนการใช้ชีวิตอย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบผ่านผลิตภัณฑ์และบริการ จัดเต็มไลน์อัปผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์อเนกประสงค์ (Power Products) มาจัดแสดงในงาน Motor Show 2025
ภายในบูธมีการแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 3 โซนหลัก เพื่อความสะดวกในการเข้าชม แบ่งเป็น
Product Zone ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ นำโดย “Honda City Hatchback DRIVAL” รุ่นพิเศษ ที่ได้รับการอัปเกรดดีไซน์ เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ พร้อมสะกดทุกสายตา ในส่วนของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ นำโดย “New Honda Forza750” บิ๊กสกู๊ตเตอร์เรือธงที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยี และสมรรถนะที่เหนือคลาส และ “New Honda CB1000 Hornet SP” ซูเปอร์ Naked ไบค์ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ครบครัน ตามด้วยโมเดลพิเศษ “New Honda Monkey Chrome Legacy” รุ่น Limited Edition ที่ได้รับการออกแบบพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า รวมถึง “All New Honda Scoopy x Kuromi” ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก พร้อมให้แฟนๆ ได้จับจอง 2,000 คันเท่านั้น
Innovative Zone จัดแสดงผลิตภัณฑ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฮไลต์ของโซนนี้ นำโดย “Honda e:N1” รถ SUV พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ และ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปกับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า “New Honda CUV e:” ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของความทันสมัยทั้งด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ
Lifestyle Zone โซนโชว์เคสผลิตภัณฑ์ฮอนด้า สะท้อนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในหลายมิติ ทั้งรถ SUV รถจักรยานยนต์ที่ตอบโจทย์สายลุยอย่างสไตล์แอดเวนเจอร์ และสไตล์เทรล
โดยไฮไลต์ของบูธฮอนด้าในปีนี้ ประกอบด้วย

Honda City Hatchback DRIVAL ซิตี้คาร์ 5 ประตูสไตล์สปอร์ตแฮทช์แบ็กสุดเท่ รุ่นพิเศษ เปิดให้จองและจำหน่ายในราคา 829,000 บาท มาพร้อมสีภายนอก สีขาวแพลทินัม (มุก) พร้อมหลังคาสีดำ (ทูโทน) และมีให้เลือกในรุ่นย่อย e:HEV RS จำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น! มาพร้อม 2 ข้อเสนอพิเศษ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568–7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่ 24 มีนาคม 2568–30 มิถุนายน 2568
ทางเลือกที่ 1: ดับเบิ้ล สไมล์ พลัส ผ่อนเบา ดาวน์สบาย เลือกผ่อนได้ตามสไตล์ที่คุณชอบ ค่างวดเริ่มต้น 8,108 บาท (คำนวณจากรถยนต์ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ เงื่อนไขดาวน์ 20% ผ่อน 7 ปี) หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 10% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง*
ทางเลือกที่ 2: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.2%* สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) และดอกเบี้ย 2.35%* สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
และข้อเสนอพิเศษรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ (Honda Happy Trade-in) เมื่อนำรถยนต์ฮอนด้ามาขายและออกรถฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท หรือเมื่อนำรถยนต์คันเดิมยี่ห้อใดก็ได้มาขายและออกรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ไดรฟ์วัล ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้า รับเพิ่มบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท เมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568–30 เมษายน 2568
Honda City Hatchback DRIVAL มาพร้อมกับการอัปเกรดดีไซน์เพิ่มเติมความสปอร์ตสุดเท่ ดุดัน เร้าใจ สะกดทุกสายตา ด้วยชุดแต่งภายนอกรอบคันใหม่ สุดพิเศษ ใครเห็นก็ต้องบอกว่าทำถึง! ไม่ว่าจะเป็น
• สเกิร์ตหน้าทูโทน และสเกิร์ตหลังทูโทน(Front & Rear Under Spoiler)
• คิ้วตกแต่งกันชนหน้าด้านล่าง (Front Center Garnish)
• ชุดตกแต่งไฟตัดหมอก (Front Fog Garnish)
• คิ้วตกแต่งกันชนหลังด้านล่าง (Extend Rear Bumper Garnish)
• หลังคาสีดำ (Roof Black Paint)
• โลโก้รุ่นย่อยพิเศษ DRIVAL เห็นเด่นชัดด้านท้าย
• โลโก้ H-Mark สีดำทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (H-mark Front-Rear)
• โลโก้รุ่นรถสีดำ (City Emblem)
• ล้ออัลลอยสีดำ (Black Alloy Wheel)
• สปอยเลอร์หลังสีดำ (Black Tailgate Spoiler)
• สเกิร์ตข้าง (Side Under Spoiler R/L)
• มือจับประตูสีดำ (Black Door Handle)
• ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง (Tailgate Spoiler Garnish)
Honda City Hatchback e:HEV พร้อมทะยานไปกับขุมพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ด้วยกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความเร้าใจตั้งแต่ออกตัว ด้วยแรงบิดมอเตอร์ถึง 253 นิวตัน-เมตร ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดที่ 27.8 กม./ลิตร เพิ่มความมั่นใจไปกับ Honda SENSING ที่มาพร้อมฟังก์ชันระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) และฟีเจอร์เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) เป็นต้น ภายในกว้างขวาง มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง พร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) แยกพับ 60:40 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มสเปซการใช้งานอเนกประสงค์ได้ดั่งใจ

Honda e:N1 ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้า ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปยนตรกรรม xEV ของฮอนด้าอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ ในราคา 1,199,000 บาท สำหรับสีดำคริสตัล (มุก) และสำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) ในราคา 1,203,000 บาท สัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่างเชื่อมั่น ด้วยการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งระบบ 8 ปี หรือ 160,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมรับข้อเสนอเมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568–7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%* (ส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) สำหรับลูกค้าทั่วไปรับดอกเบี้ย 1.99%* พร้อมรับ
ฟรี! ประกันภัย 1 ปี*
ฟรี! โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง และสายชาร์จแบบพกพา*
ฟรี! รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 140,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
และรับเพิ่มแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ ตามตารางการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในสมุดรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กม.* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
อุ่นใจไร้กังวลตลอดการใช้งานด้วยเครือข่ายศูนย์บริการครอบคลุมทั่วประเทศ Honda e:N1 มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยโลโก้ H Mark ใหม่ สไตล์พรีเมียมมินิมอล ภายในกว้างขวางนั่งสบาย พร้อมไฟสร้างบรรยากาศสีฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันล้ำสมัย ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 15.1 นิ้วแบบ Advanced Touch ที่รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว
ขับสนุก เร่งแรง แต่ยังคงความนุ่มนวลในทุกจังหวะ ด้วยขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% จากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3-in-1 (Motor, Power Drive Unit และ Gearbox) ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ204 แรงม้า (PS) มอบแรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 68.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สูงสุด 500 กม. (มาตรฐาน NEDC) มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่นๆ อย่างครบครัน ให้คุณมั่นใจตลอดการเดินทาง เช่น
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Information – BSI)
• ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor – CTM)
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
• เซนเซอร์กะระยะ 8 จุด (8-position Parking Sensors)
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) เป็นต้น
นอกจากนี้ ในบริเวณโซนจัดแสดง Product Zone ฮอนด้ายังมาพร้อมรถยนต์หลากหลายรุ่นครบทุกเซกเมนต์และครอบคลุมทุกไลน์อัปให้ทุกคนได้สัมผัส เริ่มต้นที่
ไลน์อัประบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV
เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน มอบความแรงเกินคาด ประหยัดเกินใคร ให้คุณใช้ชีวิตได้อิสระ และพาคุณไปได้ไกลกว่าด้วยน้ำมัน 1 ถัง และมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่น

นำโดย The new Honda HR-V e:HEV สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวียอดนิยม ที่ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องอัปลุคดีไซน์สปอร์ตใหม่รอบคัน ขับสนุกและประหยัดด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูงสุด 253นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันถึง 25.6 กม./ลิตร พาคุณไปได้ไกลกว่า 900 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง** ครบครันด้วยฟังก์ชันเพื่อการขับขี่และอำนวยความสะดวก* ที่รองรับกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ใช้งาน อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท

Honda Accord e:HEV โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม มอบสมรรถนะที่ดีในทุกการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัวในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 25 กม./ลิตร สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม.ด้วยน้ำมัน 1 ถัง มาพร้อมหลากหลายเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีการขับขี่อื่นๆ* อาทิ Google built-in ปุ่ม Experience Selection Dial ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง และระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) ด้วยราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท
Honda CR-V e:HEV ยนตรกรรมพรีเมียมเอสยูวี 5 ที่นั่ง มาพร้อมดีไซน์ที่แข็งแกร่งในทุกมิติ พร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ให้การตอบสนองได้แรงทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร (รุ่น e:HEV ES) สามารถขับไปได้ไกลกว่า 900 กม. ด้วยน้ำมัน 1 ถัง ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม* พร้อมเติมเต็มทุกความอเนกประสงค์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์ในเมืองและนอกเมืองอย่างลงตัว ในราคาเริ่มต้นที่ 1,589,000 บาท (รุ่น e:HEV ES)

City Series ไลน์อัป e:HEV นำโดย Honda City e:HEV ซิตี้คาร์ซีดานยอดนิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ และ Honda City Hatchback e:HEV อีกหนึ่งทางเลือกของรถซิตี้คาร์สไตล์สปอร์ต 5 ประตู ที่มาพร้อมพื้นที่อเนกประสงค์กับเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR) อันเป็นเอกลักษณ์จากฮอนด้าทั้งสองรุ่น มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานพลังขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตอบสนองดั่งใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตัน-เมตร มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังให้ทั้งอัตราเร่งแรงเร้าใจ ประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.8 กม./ลิตร พร้อมพาคุณเดินทางสู่ทุกจุดหมายและไปได้ไกลกว่า 800 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง ในราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท
ไลน์อัปขุมพลังเทอร์โบ
มอบประสบการณ์ขับสนุก อัตราเร่งเร้าใจ สไตล์สปอร์ต แต่ยังคงความประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่น

นำโดย The New Honda Civic ไอคอนยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดาน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ และไฟท้ายแบบ LED รมดำ ภายในห้องโดยสารกว้างสบาย ให้ความรู้สึกเท่ สปอร์ต ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคล่องตัว เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันและฟีเจอร์เพื่อการขับขี่และอำนวยความสะดวกที่ครบครัน* มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.5 ลิตร มอบความแรงเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 178 แรงม้า ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กม./ลิตร โดยรุ่น EL+ ราคา 1,039,000 บาท

City Series ไลน์อัป TURBO นำโดย Honda City ซิตี้คาร์ยอดนิยม โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว และภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และ Honda City Hatchback มาพร้อมเบาะนั่งอัลตราซีท (ULTR Seat) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร ที่มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ขับสนุกพร้อมตอบสนองทุกการเดินทางครบครันด้วยหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน* สำหรับ City Turbo ประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กม./ลิตร และ City Hatchback Turbo ประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กม./ลิตร ด้วยราคาเริ่มต้น 599,000 บาท
สำหรับแฟนฮอนด้าสายสปอร์ต ห้ามพลาด! พบกับรถยนต์ฮอนด้ารุ่นยอดนิยมที่ได้รับการเสริมความสปอร์ตโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสุดพรีเมียมจากโมดูโล (Modulo) ที่คัดสรรมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งสายแต่งรถ และสายอเนกประสงค์ โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบไอเท็มและแพ็กเกจรอบคัน นำโดย CR-V (รุ่น e:HEV RS) กับชุดแต่ง Modulo ในคอนเซ็ปต์ Vibrant SUV ที่จะมาเสริมความพรีเมียมที่ลงตัวให้กับ Honda CR-V e:HEV มากกว่าที่เคยเป็น ด้วยชุดแต่งรอบคันแบบพรีเมียมสปอร์ต แพ็กเกจ (RS) ซึ่งประกอบด้วยกันชนหน้าแบบสปอร์ต ชุดตกแต่งกันชนด้านหลัง คิ้วตกแต่งกระจังหน้าแบบโครเมียม บันไดข้าง และชุดตกแต่งฝาท้ายคิ้วโครเมียม ในราคา 45,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งภายใน อย่างไฟส่องสว่างประตูคู่หน้าแบบ LED โลโก้ CR-V ราคา 4,350 บาท และใหม่ล่าสุด! เสริมลุคสปอร์ต พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยชุดโลโก้สีดำ ในราคา 1,500 บาท

The New Honda HR-V e:HEV (รุ่น e:HEV EL) กับชุดแต่ง Modulo ในคอนเซ็ปต์ More premium, More sporty ที่จะมายกระดับความพรีเมียมด้วย
• แพ็กเกจ Modulo Urban Shark Grey พร้อมเติมเต็มลุค Everyday Sport อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยชุดแต่งรอบคันประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตหลัง และสเกิร์ตข้างสี Shark Grey ในราคา 21,000 บาท
• แพ็กเกจ Utility พร้อมเสริมความอเนกประสงค์ในการใช้งานประกอบด้วย ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้ายรถ ในราคา 4,800 บาทอีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยชุดไฟส่องสว่างบริเวณฝาท้ายรถในราคา 2,500 บาท

พิเศษสุด! เอาใจสาวกฮอนด้า ด้วยชุดแต่งรอบคันจาก มูเกน (MUGEN) ที่ได้รับการติดตั้งมาใน The New Honda HR-V e:HEV (รุ่น e:HEV EL) จัดเต็มมอเตอร์สปอร์ต DNA พร้อมฉีกทุกกฎเกณฑ์เเห่งอัตลักษณ์อันไร้ขีดจำกัด และสร้างความโดดเด่นแบบ Aggressive Sport ด้วยชุดแต่งรอบคัน อาทิ
• สปอยเลอร์หน้า ราคา 22,400 บาท
• สเกิร์ตข้าง ราคา 32,000 บาท
• สปอยเลอร์หลัง ราคา 22,600 บาท
• สปอยเลอร์วิงหลัง ราคา 34,000 บาท
• สปอยเลอร์วิงหลัง (ตรงกลาง) ราคา 34,000 บาท
เพิ่มความโดดเด่น ดุดันด้วยล้ออะลูมิเนียม MDW 18×7.5J สีดำ ในราคารวมสี่ล้อที่ 54,360 บาท
โดยจัดจำหน่ายผ่านโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ พร้อมรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร กรณีติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพร้อมรถยนต์ใหม่
สามารถดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง MUGEN เพิ่มเติมได้ที่ https://www.mugenpower-thailand.com/hrv/index.html
ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo สำหรับ The new HR-V e:HEV เพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/hrv
ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo สำหรับ CR-V เพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/products/crv

ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธ Honda (A26 และ M1) ได้ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 (Motor Show 2025) ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1–3 และฟอรั่ม ฮอลล์ 4 ตั้งแต่วันนี้ – 6 เมษายน 2568 เวลา 12.00–22.00 น. (วันธรรมดา) และ 11.00–22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ)