สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ซึ่งเป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจการเงินการลงทุนชื่อดังระดับโลก รายงานว่า นายปีแอร์ เหลียง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย แพลทฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ชื่อดัง พร๊อพเพอร์ตี้ สเก้าท์ เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวมาถึงกรุงเทพมหานคร จนกระทั่งส่งผลให้ตึกสำนักงานสตง. สูง 30 ชั้นพังทลายลงมาทั้งหมดนั้น ทำให้ประชาชนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมได้ยกเลิกการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับคอนโดมิเนียมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะซื้อคอนโดคอนโดมิเนียม มีความลังเลใจมากเมื่อมองหาคอนโดมิเนียมที่มีระดับความสูงหลายชั้น โดยเฉพาะโครงการคอนคอนโดมิเนียมใหม่ที่เป็นตึกสูง
ข้อมูลจากสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า บรรดาบริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่บริเวณปริมณฑลต้องเผชิญกับภาวะคอนคอนโดมิเนียมตกค้างเป็นสต๊อกเก่า ไม่สามารถขายได้ มีจำนวนรวมกันมากถึง 235,000 ยูนิต ช่วงสิ้นปี 2024 ที่ผ่านมา ส่งผลทำสถิติคอนโดมิเนียมมียอดคงค้างสูงสุดในรอบ 7 ปี หรือตั้งแต่ปี 2018 สอดรับกับยอดขายคอนโดคอนโดมิเนียมในปี 2024 ที่ดำดิ่งมากถึง -37% ซึ่งขายได้เพียง 53,400 ยูนิต
ด้านบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทรเปิดเผยในรายงานว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร และส่งผลกระทบถึงตึกสูงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่เป็นตึกสูงจะมีผลกระทบความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นเวลา 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้า คอนโดมิเนียมที่เป็นตึกสูงจะต้องมีต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับค่าตรวจสอบและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีในหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ดำดิ่งทรุดหนักถึง -31% เมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีหลักทรัพย์ SET Index ที่ตกต่ำ -15% ในปีผ่านไป
