ตลาดน้ำมันดิบโลกปิดถูกสุดใน 4 ปีต่อเนื่อง ร่วงอีกกว่า 1 ดอลลาร์ ฉุดปิดหลุด 60 ดอลลาร์ ดำดิ่ง 4 วันติดกันหายไปกว่า 12 ดอลลาร์หรือเฉียด -18% ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจีนสูงอีก 50% รวมทะลุ 194% โต้ตอบจีนขึ้นภาษี 34% เศรษฐกิจสหรัฐส่อถดถอยมากขึ้น โอเปกพลัสสวนขึ้นกำลังการผลิตเหนือคาด น้ำมันในไทยถูกลงอีก 50 ส.ต. มีผลวันนี้ 9 เมษายน

ตลาด น้ำมันดิบ โลกปิดถูกสุดใน 4 ปีต่อเนื่อง ร่วงอีกกว่า 1 ดอลลาร์ ฉุดปิดหลุด 60 ดอลลาร์ ดำดิ่ง 4 วันติดกันหายไปกว่า 12 ดอลลาร์หรือเฉียด -18% ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจีนสูงอีก 50% รวมทะลุ 194% โต้ตอบจีนขึ้นภาษี 34% เศรษฐกิจสหรัฐส่อถดถอยมากขึ้น โอเปกพลัสสวนขึ้นกำลังการผลิตเหนือคาด น้ำมันในไทยถูกลงอีก 50 ส.ต. มีผลวันนี้ 9 เมษายน

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 8 เมษายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 59.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.12 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.85% ไม่เพียงทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 4 ปี หรือตั้งแต่เมษายน 2021 เป็นต้นมา แต่ยังส่งผลราคาปิดดิ่งลงรวม 4 วันติดกัน -12.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -17.99% เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน มีราคาดิ่งต่ำสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 60.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 4 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี 3 เมษายน ราคาปิดดิ่งลง -6.64% ทำสถิติเป็นราคาปิดน้ำมันดิบในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ดำดิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2022 หรือในรอบ 2 ปี 7 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 62.82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.39 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -2.16% ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน หรือตั้งแต่สิงหาคม 2021 ส่งผลราคาปิดดิ่งลงรวม 4 วันติดกัน -12.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -17.18% เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายนมีราคาดิ่งต่ำสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 64.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 4 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี 3 เมษายน ราคาปิดดิ่งลง -6.42% ทำสถิติเป็นราคาปิดน้ำมันดิบในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ดำดิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2022 หรือในรอบ 2 ปี 8 เดือน หลังจากเมื่อวันพุธผ่านมา เป็นราคาปิดน้ำมันดิบที่สูงสุดตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 5 สัปดาห์

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาดโลกปิดดำดิ่ง -10.6% และ -10.9% ตามลำดับ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งเลวร้ายสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง หรือตั้งแต่กลางปี 2023 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

สาเหตุจากสงครามภาษีทวีความไม่แน่นอนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และความรุนแรงในการตอบโต้มากขึ้นเกินคาด เมื่อ ทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา แถลงว่ารัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเก็บอัตราภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs สูงขึ้นอีก 50% กับจีนส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้ารวมกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทนเป็น 104% กับสินค้าที่มาจากประเทศจีนโดยให้มีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 9 เมษายนตามเวลาในสหรัฐเป็นต้นไป หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า หากจีนไม่ถอนการตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสูง 34% กับสหรัฐภายในวันที่ 8 เมษายน สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้าสูงอีก 50% กับจีน ให้มีผลวันที่ 9 เมษายนนี้ ด้านกลุ่มสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดเผยว่าในวันจันทร์นี้ เตรียมเสนอขึ้นภาษีนำเข้าอีก 25% กับสินค้าทุกชนิดจากสหรัฐ

กระทรวงคลังจีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ถึง 34% กับสินค้าทุกชนิดจากสหรัฐ และจำกัดการทำธุรกิจนำเข้าส่งออก 11 บริษัทของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจัดเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับ 185 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ 10% ถึง 50% มีผลในวันที่ 5 เมษายนเป็นต้นไป ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งอัตราเก็บภาษีดังกล่าวสูงเกินคาดหมายมากกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่หลายแห่งของโลก ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในปีนี้เป็น 60% จากเดิมที่ 40% หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprosal Tariffs กับทั่วโลก

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 9 เมษายน นี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ลง 50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 6 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา ส่งผลเป็นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอลล์มีราคาขายถูกสุดใน 3 ปี 2 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 19 มกราคม 2565 และน้ำมันดีเซลมีราคาขายถูกสุดใน 10 เดือน หรือตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2567

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles