ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ชี้โลกเผชิญราคาน้ำมันดิบร่วงต่ำ 2 ปีซ้อน ลดเป้าราคาเฉลี่ยทั้ง 2 ตลาดหลักของโลกเหลือกว่า 55 ดอลลาร์สหรัฐ ชี้ราคาเฉลี่ยต่ำสุดอาจหลุด 40 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2026 รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐมั่นใจราคาพลังงานเฉลี่ยขาลงถึง 4 ปีหน้า

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ชี้โลกเผชิญ ราคาน้ำมันดิบ ร่วงต่ำ 2 ปีซ้อน ลดเป้าราคาเฉลี่ยทั้ง 2 ตลาดหลักของโลกเหลือกว่า 55 ดอลลาร์สหรัฐ ชี้ราคาเฉลี่ยต่ำสุดอาจหลุด 40 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2026 รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐมั่นใจราคาพลังงานเฉลี่ยขาลงถึง 4 ปีหน้า

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ชื่อดังยักษ์ใหญ่ระดับโลกแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเฉลี่ยลดลงถึง 2 ปีติดต่อกัน ในสิ้นปี 2025 สำหรับราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เฉลี่ยลดเหลือ 59 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เฉลี่ยลดเหลือ 63 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนในเดือนธันวาคมปี 2026 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เฉลี่ยลดเหลือ 55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เฉลี่ยลดเหลือ 58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในกรณีเลวร้ายที่สุด ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกโดยเฉพาะราคาเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ในปี 2026 จะดำดิ่งตกต่ำเหลือเพียง 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในกระดาษที่ปี 2026 จะมีราคาทรุดหนักลงต่ำกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

สาเหตุจากปัจจัยลบของภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์สงครามการค้าโลกส่งผลให้ความต้องการในการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกเพิ่มขึ้นเบาบางเพียงแค่วันละ 300,000 บาร์เรลในช่วงระหว่างตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมาจนกระทั่งถึง 2025 นอกจากนี้ ยังปรับลดการคาดการณ์ความต้องการบริโภคน้ำมันดิบทั่วโลกในไตรมาสที่ 4 ของปี 2026 ลงมากถึงวันละ 900,000 บาร์เรล นับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม 2025 เป็นต้นมา

นักวิเคราะห์จำนวนมากในสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ในปี 2025 จะมีปริมาณน้ำมันดิบเกินความต้องการบริโภคถึงวันละ 800,000 บาร์เรล และในปี 2026 จะมีปริมาณน้ำมันดิบล้นเหลือการบริโภคสูงถึง 1.4 บาร์เรลต่อวัน

สำหรับปัจจัยลบที่มีต่อภาวะตลาดน้ำมันดิบโลกในปี 2025 และปี 2026 ถัดมา ได้แก่ กลุ่มโอเปกพลัสส่งสัญญาณชัดเจนในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบมากขึ้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มโอเปกพลัสในตลาดโลก ท่ามกลางประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีแนวโน้มจะผลิตเพิ่มมากขึ้นจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุนน้ำมันดิบ และพลังงานดั้งเดิม ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะมีสัญญาณชะลอตัวลงอย่างชัดเจนอีกสองปีต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายคริส ไวรท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ราคาพลังงานในตลาดโลกภายใต้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีราคาลดต่ำลงมากกว่าในยุคอดีตรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาแน่นอน ในช่วงปี 2017-2021 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles