ตลาดหุ้นสหรัฐปิดสวนทาง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทรุดแรงอีกกว่า -500 จุด ผลประกอบการบริษัทย่ำแย่กว่าคาด

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,142 จุด -527 จุด หรือ -1.33% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,282 จุด +7 จุด หรือ +0.13% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,286 จุด -20 จุด หรือ -0.13% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดคปิดลดลง 3 วันติดกันรวม -1,381 จุด และ -544 จุดตามลำดับ ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -2%, -1.5% และ -2.% ตามลำดับ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์เนื่องจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ส่งผลตลาดหุ้นปิดวันหยุดยาวต่อเนื่อง

สาเหตุจากราคาหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์มีราคาดำดิ่งอย่างมากจากผลประกอบการที่ย่ำแย่กว่าที่คาดไว้ นักลงทุนยังคงเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีตัวอื่นๆ ลงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดกัน หลังจากเอ็นวีเดียยอมรับว่ารัฐบาลสหรัฐจำกัดการส่งออกไมโครชิปรุ่น H20 ไปยังประเทศคู่ค้าหลายแห่งรสมทั้งจีน และมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการนำเข้าภาษี ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายไตรมาสมากถึง 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 187,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเติบโตในลักษณะลดน้อยลงนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในระยะใกล้นี้ และอาจทำให้เป้าหมายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะห่างไกลออกไป นักลงทุนมีความกังวลในความชัดเจนของการประกาศมาตรการภาษีเซมิคอนดักเตอร์ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้

ด้านธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2025 นี้ลงจากเดิมที่ 2.4% มาเหลือเพียง 1.7% นับเป็นมุมมองตัวเลขจีดีพีสหรัฐที่ลดต่ำลงจากภาพส่วนใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครึ่ง

ผลสำรวจเกี่ยวกับมุมมองภาวะเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกา พบว่าตัวเลขดังกล่าวในช่วง 5 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.5% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีหรือนับตั้งแต่เมษายนปี 1995 เป็นต้นมา และในช่วง 1 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2023 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ สิ้นสุดปี 2024 พบว่า ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง พุ่งสูง +13%, +23% และ +29% ตามลำดับ โดยเฉพาะ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ทำสถิติผลตอบแทนดัชนีหุ้นปิดบวกสูงกว่า 20% เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles