“ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” มองเที่ยวไทยฟื้นแข็งแกร่ง ดันทุเรียนซอฟต์พาวเวอร์ไทย เปิดแคมเปญรับท่องเที่ยวไฮซีซั่น

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ขานรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเทรนด์การท่องเที่ยวเชิงอาหารหรือ Gastronomy Tourism ในเมืองไทย พร้อมร่วมผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ชื่อดังอย่าง “ทุเรียนหมอนทอง” เดินหน้าจับมือ Toby’s Farm สวนทุเรียนคุณภาพระดับพรีเมียมจากจังหวัดจันทบุรี เปิดตัวแคมเปญสำคัญรับช่วงไฮซีซั่นหน้าร้อน กับ “Durian Decadent Afternoon Tea” หยิบ “ราชาผลไม้ไทย” มาเป็นวัตถุดิบหลักในการรังสรรค์เมนูพิเศษสำหรับเซตน้ำชายามบ่ายในโรงแรมระดับ 5 ดาว

สำหรับ อุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยวไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ด้วยรายได้ธุรกิจโรงแรมที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าราว 9.0-9.6 แสนล้านบาทในปี 2567-2568 อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ยกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด โดยครึ่งแรกของปี 2567 ไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 17.5 ล้านคน หรือ 88% ของระดับปี 2562 ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แตกต่างและโดดเด่น โดยเฉพาะการใช้แคมเปญเชิงวัฒนธรรมและอาหาร เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่กำลังกลับมาเที่ยวเมืองไทยอย่างคึกคักอีกครั้ง

การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) กำลังก้าวขึ้นมาเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของภาคการท่องเที่ยวโลก และ “ประเทศไทย” ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากวัฒนธรรมทางอาหาร ก็กำลังได้รับความนิยมในฐานะประเทศต้องห้ามพลาดของนักชิมทั่วโลก โดย Credence Research บริษัทวิจัยตลาดได้คาดการณ์ว่าตลาดการท่องเที่ยวด้านอาหารของไทยจะเติบโตจาก 32,489.66 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 เป็น 80,730.95 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2575 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่สูงถึง 12.05% นอกจากนี้ ยังพบว่า 53% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเลือกเมืองท่องเที่ยวจากอาหารและเครื่องดื่มที่อยากลิ้มลอง ด้วยเหตุนี้ ทำให้โรงแรมระดับ 5 ดาวอย่างไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ผนึกกำลังกับสวนคุณภาพในท้องถิ่นเพื่อนำเสนอประสบการณ์ทางอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อรองรับนักชิมจากทั่วโลก

ด้านตลาดทุเรียนไทย ศักยภาพการเติบโตยังมีความโดดเด่น ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทยส่งออกทุเรียนสดมูลค่า 3,219.42 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2565 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดโลกสูงถึงร้อยละ 93.3 โดยมีตลาดหลักคือจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ทั้งนี้ Mordor Intelligence รายงานว่าตลาดทุเรียนสดทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจาก 10.78 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2025 เป็น 16.89 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2030 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 9.4% โดยประเทศจีนยังคงเป็นตลาดหลักที่บริโภคทุเรียนมากถึง 91% ของดีมานด์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตลาดทุเรียนไทยยังเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียและเวียดนาม รวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและมาตรฐานการส่งออกที่เข้มงวด ด้วยเหตุนี้ การยกระดับคุณค่าของทุเรียนไทยผ่านโมเดลธุรกิจใหม่ เช่น การสร้างประสบการณ์ตามเทรนด์ Gastronomy Tourism ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวยุคใหม่จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมศักยภาพและเพิ่มมูลค่าให้ราชาผลไม้ไทย

ชุดน้ำชายามบ่ายในธีมทุเรียนหมอนทองพรีเมียม ประกอบไปด้วยของหวาน 7 รายการ ได้แก่ สโคนทุเรียนและแยมสับปะรด เค้กชิฟฟ่อนทุเรียน มูสส้ม ชีสทาร์ตทุเรียน พานาคอตต้าทุเรียน ข้าวเหนียวทุเรียน และมาการองมะขาม เสิร์ฟพร้อมกับเมนูคาว 3 รายการ ได้แก่ เปาะเปี๊ยะทุเรียนชีส แซนวิชอะโวคาโดซัลซ่า และแครกเกอร์ยำส้มโอ ภายในเซตประกอบไปด้วยเครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ได้แก่ สมูตตี้ทุเรียน เครื่องดื่มสมุนไพร ชาและกาแฟพรีเมียม พร้อมด้วยเจลาโต้ทุเรียนจาก คาเฟ่ บอนจอร์โน (Café Buongiorno) พร้อมเสิรฟ์มังคุดสดช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เสิร์ฟเซต Durian Decadent Afternoon Tea ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2568 – 31 พฤษภาคม 2568 ในราคา: 800++ บาทต่อท่าน และ 1,500++ บาทสำหรับ 2 ท่าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ อีเมล: bangkoksukhumvit.regency@hyatt.com หรือ โทร 02 098 1234

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles