บีวายดี (BYD) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ชื่อดังระดับโลก และใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เปิดตัวเรือสำหรับขนส่งรถยนต์พลังงานใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อว่า บีวายดี เซินเจิ้น (BYD Shenzhen) เรือลำนี้มีขนาดกว้าง 37.7 เมตร และยาว 219 เมตร ใช้ระบบเชื้อเพลิงคู่ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และสามารถขนส่งรถได้ถึง 9,200 คัน
หวังจวินเป่า ผู้จัดการทั่วไปประจำฝ่ายธุรกิจสาธารณะของบีวายดี กล่าวว่า เรือบีวายดี เซินเจิ้น นับเป็นเรือบรรทุกรถยนต์ลำที่ 4 ของบีวายดี ซึ่งถูกส่งมอบที่เมืองอี๋เจิง มณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน เรือลำนี้มีเทคโนโลยีสีเขียวล้ำสมัย เช่น เครื่องยนต์หลักประหยัดพลังงานสมรรถนะสูง เครื่องควบแน่นแบบบีโอจี (BOG) และการเคลือบสีที่ลดแรงเสียดทานและป้องกันเพรียง ระบบบรรทุกอันมีประสิทธิภาพและสารพัดเทคโนโลยีป้องกันขั้นสูงของเรือบีวายดี เซินเจิ้น จะช่วยสนับสนุนการส่งมอบยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของบีวายดีสู่ทั่วโลกแบบปล่อยคาร์บอนต่ำและมีเสถียรภาพ
การส่งมอบเรือบีวายดี เซินเจิ้น ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ก้าวสู่ทั่วโลกของบีวายดี ไม่ได้เป็นเพียงเรือขนส่งทั่วไป แต่ยังเป็นสะพานทางทะเลที่เชื่อมต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมของจีนกับตลาดโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้ร่วมรับผลประโยชน์จากเทคโนโลยีของจีน ทั้งนี้ เรือบีวายดี เซินเจิ้น มีกำหนดขนถ่ายรถบีวายดีขึ้นเรือเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ก่อนออกเดินทางสู่บราซิล
ยอดจำหน่ายในต่างประเทศของบีวายดีในปี 2024 สูงถึง 417,200 คัน ซึ่งบราซิลกลายเป็นตลาดโดดเด่นด้วยยอดจำหน่าย 76,700 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 328 เมื่อเทียบปีต่อปี และการเปิดตัวเรือบีวายดี เซินเจิ้น จะยกระดับการดำเนินงานและขีดความสามารถด้านการส่งมอบของบีวายดีในต่างประเทศ
ปัจจุบันบีวายดีใช้เรือขนส่งรถบีวายดีมีทั้งหมด 3 ลำ ได้แก่ เอ็กซ์โพลเรอร์ หมายเลข 1, ฉางโจว และเหอเฝย โดยเรือเหล่านี้ขนส่งยานยนต์พลังงานใหม่สู่ต่างประเทศในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) มากกว่า 25,000 ลำ และปัจจุบันยานยนต์พลังงานใหม่ของบีวายดีเข้าถึงเมืองต่างๆ กว่า 400 แห่งในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนระบุว่าปริมาณการผลิตและจำหน่ายของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก โดยการผลิตอยู่ที่ 3.18 ล้านคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.4 เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่การส่งออกยานยนต์ของจีนยังคงรักษาทิศทางการเติบโต โดยมีการส่งออกยานยนต์พลังงานใหม่ในไตรมาสแรกรวม 4.41 แสนคัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.9 เมื่อเทียบปีต่อปี