นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจอีเวนต์อยู่ภาวะโคม่าและแทบตายหมด เพราะเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่อง เงินฝืด และถือว่ารุนแรงสุดรอบ 10 ปี ลูกค้าภาครัฐและเอกชนเลื่อนจ่ายเงิน ทำให้ผู้จัดงานหรือออร์แกนไนเซอร์ต้องเบิกจ่ายเงินล่าช้า เกิดกระทบลามเป็นลูกโซ่ เพราะต้องแจ้งซัพพลายเออร์ถึงการจ่ายเงินที่ช้าออกไปด้วย
โดยธรรมชาติของธุรกิจงานอีเวนต์ หรือการจัดงานกิจกรรมการตลาดไม่ว่าเป็นสินค้า หรือบริการต่างๆ เป็นธุรกิจเงินสด ทำให้มีการเบิกจ่ายเงินทุกอย่างจะเกิดขึ้นหลังสิ้นสุดงานภายในวันที่จัดงาน เช่น จ่ายเงินค่าจ้างพิธีกร หรือศิลปินที่เข้าร่วมงาน ถึงแม้ภาพรวมของธุรกิจงานอีเวนต์จะน่าห่วงมาก แต่ซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องกับงานอีเวนต์ เช่น แสง สี เสียง ยังขับเคลื่อนธุรกิจได้ เนื่องจากปีนี้ยังมีการจัดงานคอนเสิร์ต งานอีเวนต์อื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อสร้างสีสันให้กับงานเป็นหลัก
ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าเกิดภาวะเงินขาดมือ ธุรกิจอีเวนต์ทุกคนขาดสภาพคล่องหมดทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ หรือ SLM วงการอีเวนต์แทบตายกันหมดเลย อยู่ในอาการโคม่า ซัพพลายเออร์รับงานมาแล้วกลับไม่ได้เงินผู้จัดงาน หรือออร์แกนไนเซอร์ เพราะเบิกจ่ายเงินล่าช้าจากเจ้าของจัดงาน หรือเลื่อนจ่ายออกไป ทั้งภาครัฐ และเอกชน เหมือนเกิดสภาพเงินฝืด เงินหายไปจากระบบ
หากพิจารณาสภาพคล่องธุรกิจอีเวนต์นั้น เกิดภาวะเงินตึงมือฝืดเคือง มาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด พอพ้นช่วงโรคโควิด-19 คิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น สถานการณ์เศรษฐกิจและธุรกิจจะดีขึ้น งานจะเข้ามามากขึ้น แต่ไม่ใช่ กลับกลายเป็นช่วงโควิด-19 กราฟลงไปแล้ว ตอนนี้กราฟก็ลงไปอีก เจ้าของบริษัทรับจัดงานอีเวนต์ต้องเผาเงิน หรือ Burn Cash ด้วยการจ่ายเงินให้พนักงานถึงแม้ไม่มีงาน หรือไม่มีรายได้เข้ามา เพื่อประคองสถานการณ์ รวมถึงสถาบันการเงินโดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่ไม่ปล่อยสินเชื่อเลย