นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงถัดไปมีแนวโน้มจะชะลอตัวลง อยากจะขอให้ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจต่างๆ ต้องมีการเตรียมการในส่วนของตัวท่านเอง การที่จะรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการค้า และเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในช่วงถัดไป
ในขณะเดียวกัน ภาคประชาชนเองนะครับ ก็อยากให้ทุกท่านเตรียมความพร้อมในส่วนตัวท่านเอง เรื่องการใช้จ่ายประจำวัน คงต้องมีการใช้จ่ายให้รอบคอบมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ทุกท่านผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ ขอให้ทุกท่านมีความระมัดระวังทั้งภาคธุรกิจ และภาคประชาชนในการดำเนินชีวิต และการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดจากนี้ไป เพื่อทำให้เราทุกท่านผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
เมื่อวานนี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ แถลงปรับลดตัวเลขคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัว 1.3% -2.3% โดยมีค่าเฉลี่ยเติบโตที่ 1.8% สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของรายจ่ายการลงทุนของรัฐ การเพิ่มขึ้นของวงเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบ 2568 การขยายตัวของการบริโภคเอกชน อัตราการว่างงานและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวเนื่อง
อย่างไรก็ดี การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยทั้งปียังมีข้อจำกัด คือหนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูงมีแนวโน้มชะอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 นอกจากนี้ การค้าโลก และผลกระทบจากมาตรการการค้าของสหรัฐฯ ทั้งนี้ การอุปโภคบริโภคจะโต 2.4% และการลงทุนเอกชนลดลง 0.7% ขณะที่การส่งออกคาดว่าโต 1.8% เงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ในช่วง 0.0 – 1.0%
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ที่เติบโต 3.1% นั้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำสุดใน 6 ประเทศชั้นนำของอาเซียน ดังนี้ เวียดนามเติบโต +6.9% ฟิลิปปินส์ขยายตัว +5.4% อินโดนีเซียขยายตัว +4.8% มาเลเซียเพิ่มขึ้น +4.4% และสิงคโปร์ขยายตัว +3.8%