คนรุ่นใหม่เจนซี (Z) ยันเจนวาย (Y) ฟันธงมีเงินมากมายย่อมมีความสุขมากกว่าชัดเจน ตะลึงไลฟ์สไตล์การเงินคนไทยรุ่นใหม่กว่า 60% ใช้ชีวิตเดือนปะทะเดือนมากกว่าทั่วโลก ไม่มีเงินเก็บ ดิ้นรนเพื่อจ่ายให้ทัน ไม่พ้นเกษียณทุกข์การเงิน

คนรุ่นใหม่ เจนซี (Z) ยัน เจนวาย (Y)ฟันธงมีเงินมากมายย่อมมีความสุขมากกว่าชัดเจน ตะลึงไลฟ์สไตล์การเงินคนไทยรุ่นใหม่กว่า 60% ใช้ชีวิตเดือนปะทะเดือนมากกว่าทั่วโลก ไม่มีเงินเก็บ ดิ้นรนเพื่อจ่ายให้ทัน ไม่พ้นเกษียณทุกข์การเงิน

ดีลอยท์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนชื่อดังระดับโลก เปิดเผยรายงานมีชื่อว่า ดีลอยท์ โกลบอล 2025 วัยเจนซี (Deloitte Global 2025 Gen Z) และรายงานชื่อว่าผลสำรวจมิลเลนเนียล (Millennial Survey) พบว่า ถ้ามีความมั่นคงทางการเงิน จะมีความสุขมากกว่าอย่างชัดเจน สะท้อนจากคนเจนซี(Z) ราว 60% และคนเจนวาย(Y) ราว 68% ทั่วโลก ที่มีความมั่นคงทางการเงินล้วนยอมรับว่ามีความสุขมาก ในด้านความเป็นอยู่ที่ดีนั้น คนเจนวายมีความพึงพอใจความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทำงานสูงกว่าเจนซีทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความพยายามขององค์กรในการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี โอกาสในการเติบโตในที่ทำงาน และสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

เมื่อเปิดเผยรายละเอียดผลสำรวจในไทยนั้น ปรากฏว่าค่าครองชีพยังคงเป็นความกังวลอันดับหนึ่งสำหรับทั้งคนไทยเจนซีและคนไทยเจนวาย สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่ประชาชนมีความท้าทายในการหารายได้ ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน ไม่มีเงินเก็บ และดิ้นรนเพื่อให้จ่ายให้ทัน

สำหรับความกังวลด้านการเงิน และค่าครองชีพ ยังคงส่งผลกระทบในอันดับต้นๆ ได้แก่ ความกังวลสูงสุดมีถึง 38% ของคนเจนไทยซี และคิดเป็น 36% ของคนไทยเจนวาย คือกังวลเรื่องค่าครองชีพ ถัดมา คือการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยคนไทยเจนซีกังวลถึง 23% และคนไทยเจนวายกังวลถึง 26% ต่อมาความปลอดภัยทางไซเบอร์ กลายเป็นความกังวลราว 22% ของคนไทยเจนซี และมีถึง 23% ของความกังวลของคนไทยเจนวาย

คนไทยเจนซีและเจนวายใช้ชีวิตในปัจจุบันแบบเดือนชนเดือน พบว่า คนไทยเจนซีราว 63% และคนไทยเจนวายราว 64% ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 52% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีเงินเก็บออม รายได้ไม่แข็งแรง แต่กลับมีร่ายจ่ายแข็งแกร่ง ที่น่าสนใจมาก คือ คนไทยกลับมีความกังวลในการดิ้นรนเพื่อจ่ายค่าครองชีพทุกเดือน และยังไม่สามารถเกษียณได้อย่างสุขสบายทางการเงิน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยใน 2 ประเด็นดังกล่าวน้อยกว่าค่าเฉลี่ยโลก นั่นหมายถึงคนไทยให้ความสำคัญกับปัญหาทางการเงินระยะสั้น ซึ่งมีตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก สะท้อนถึงคนทั่วโลกให้ความสำคัญกับการเก็บออมเงิน มองการมีเงินสะสมในระยะยาว

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles