กลาโหมสหรัฐส่งนาวิกโยธิน 700 นาย ป้องกันทรัพย์สิน และเจ้าหน้าที่ราชการในเมืองลอส แองเจลิส รอกองกำลังป้องกันชาติสหรัฐเดินทางสมทบ เหตุประท้วงรุนแรงเป็นวันที่ 3 ปธน.ทรัมป์ขู่จับผู้ว่าการรัฐ เหตุคุมสถานการณ์ไม่อยู่

กลาโหมสหรัฐส่งนาวิกโยธิน 700 นาย ป้องกันทรัพย์สิน และเจ้าหน้าที่ราชการในเมืองลอส แองเจลิส รอกองกำลังป้องกันชาติสหรัฐเดินทางสมทบ เหตุ ประท้วง รุนแรงเป็นวันที่ 3 ปธน.ทรัมป์ขู่จับผู้ว่าการรัฐ เหตุคุมสถานการณ์ไม่อยู่

รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา นายพีท เฮกเซท โพสต์ข้อความบนเสื่อโซเชียลเอ็กซ์ ว่า เนื่องจากภัยคุกคามที่มีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินราชการ และเจ้าหน้าที่ราชการที่บังคับใช้กฎหมายแห่งรัฐ กระทรวงกลาโหมสหรัฐสั่งการให้นาวิกโยธินประจำการจำนวน 700 นายไปยังเมืองลอส แองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อควบคุมสถานการณ์การประท้วงที่รุนแรง ตลอดจนจัดการให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ รัฐบาลกลางมีความรับผิดชอบ และความผูกพันภายใต้กฎหมาย ในการป้องกันทรัพย์สินราชการ และชีวิตของเจ้าหน้าที่ราชการที่บังคับใช้กฎหมาย ถึงแม้ว่าผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย นายแกรี่นิวซั่ม จะไม่ปฏิบัติงานเพื่อปกป้องทรัพย์สินราชการ และเจ้าหน้าที่ราชการที่บังคับใช้กฎหมายก็ตาม

ผู้บัญชาการภาคเหนือแห่งชาติสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่ง จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาให้จัดส่งนาวิกโยธินประจำการจำนวน 700 นายไปยังเมือง ลอสแองเจลีส โดยจัดกำลังผสมจาก 3 หน่วยปฏิบัติการนาวิกโยธินประจำการ ได้แก่ หน่วยแบตทาเลียนที่ 2 หน่วยนาวิกโยธินที่ 7 และกรมนาวิกโยธินที่ 1 ทำงานสอดประสานกับกองกำลังแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. National Guard ส่วนหนึ่งที่เข้าไปประจำการในเมืองลอสแองเจลีสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และรอการเดินทางมาถึงของเจ้าหน้าที่กองกำลังแห่งชาติสหรัฐอเมริกาเสริมอีกจำนวนมาก กองกำลังผสมนาวิกโยธินดังกล่าวจะเข้าควบคุมสถานการณ์เพื่อป้องกันทรัพย์สินราชการ และชีวิตของเจ้าหน้าที่ราชการที่บังคับใช้กฎหมาย

กองกำลังแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. National Guard เปิดเผยว่าได้จัดกองกำลังมีชื่อว่ากองกำลังทาสค์ ฟอร์ซ 51 (Task Forces 51) ประกอบด้วยกำลังพล ดังนี้ เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังแห่งชาติสหรัฐอเมริกาพร้อมอาวุธหนัก จำนวน 2,100 นาย และนาวิกโยธินประจำการจำนวน 700 นาย เจ้าหน้าที่ทั้งหมดในกองกำลังท 51 ได้รับการฝึกมาอย่างเข้มข้นในการ ควบคุมและลดสถานการณ์ความขัดแย้ง ควบคุมฝูงชนที่กำลังประท้วง และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายในการใช้ปฏิบัติการทางทหาร

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ระธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า มีความต้องการที่จะจับตัวและดำเนินคดีนายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากไม่สามารถสั่งการเพื่อแก้ไข และควบคุมสถานการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรงอย่างบานปลายรวมถึงฟื้นสถานการณ์ดังกล่าวให้กลับไปสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หลังจากเกิดเหตุการณ์ผู้ไม่พอใจรวมตัวกันเป็นกลุ่มไปประท้วงเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) ในการกวาดล้างบุคคลเข้าเมืองตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแสดงจุดยืนและให้ความมั่นใจว่า จะมีการกวาดล้างและจับกุมบุคคลเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะที่มาจากเม็กซิโก ซึ่งเป็นพรมแดนที่ติดกับประเทศสหรัฐอเมริกา ปฏิบัติการดังกล่าวกำหนดยอดในการจับกุมผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายวันละอย่างน้อย 3,000 คน นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการปิดพรมแดนระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโกตลอดแนวชายแดนอีกด้วย

ด้านนายเกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมาจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่าได้ตำหนิการใช้ปฏิบัติการส่งนาวิกโยธินจำนวน 700 นายของกระทรวงกลาโหม รวมถึงตำหนิการใช้อำนาจในการสั่งการส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังแห่งชาติสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะเดียวกันได้โปรดข้อความบนสื่อโซเชียลเอ็กซ์ว่า นาวิกโยธินสหรัฐมีเกียรติอย่างสูงในการปฏิบัติการตามภารกิจสงครามที่หลากหลาย เพื่อปกป้องประชาธิปไตยของประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่ควรที่นาวิกโยธินจะมีปฏิบัติการทางทหารบนแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา เพื่อที่จะตอบสนองต่อประธานาธิบดีเผด็จการ

เมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการประท้วงในเมืองลอส แองเจลิส ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงว่า ขอเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกายกเลิกคำสั่งการเคลื่อนพลกองกำลังแห่งชาติสหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 2,000 นายมายังเมืองลอสแองเจลิส ซึ่งถือเป็นคำสั่งที่ผิดกฎหมายแห่งรัฐ และมีแต่จะสร้างความตึงเครียดให้ทวีความรุนแรงในสถานการณ์ดังกล่าวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในฐานะผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียจะดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อรัฐบาลกลาง ในการใช้อำนาจเกินขอบเขตภายในในรัฐแคลิฟอร์เนีย

นายร็อบ บอนทา อัยการแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า กฎหมายแห่งรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาจะให้อำนาจเต็มแก่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ในการสั่งการเจ้าหน้าที่ทหารก็ต่อเมื่อ ประเทศสหรัฐอเมริกาถูกรุกราน เมื่อเกิดการกบฏ หรือเกิดการกบฏที่รุนแรง เมื่อ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไม่อยู่ในสถานะการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศ

ครั้งสุดท้ายที่รัฐบาลกลางใช้กองกำลังทหารเข้าปฏิบัติการที่ไม่แตกต่างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจลอส แองเจลิส ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายการจราจลปี 1992 เกิดขึ้นในยุคประธานาธิบดี จอร์จ เอช.ดับเบิลยู บุช หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์จราจลครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจลอส แอนเจลิส ทำร้ายร่างกายนายร๊อดนี่ คิง ซึ่งเป็นคนอเมริกันผิวสีที่กระทำผิดกฎหมายแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย

ทั้งนี้ กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาได้ รับคำสั่งให้ปฏิบัติการภายในประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งสุดท้ายเมื่อ เหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ เช่น วันที่ 23 สิงหาคม ปี 2005 เกิดพายุเฮอริเคนแคทรีน่า ซึ่งเป็นพายุเฮอริเคนที่รุนแรง และสร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และเหตุการณ์วินาศกรรมก่อการร้าย 11 กันยายน หรือ 911 ที่นิว ยอร์ก สหรัฐอเมริกา

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles