มหัศจรรย์กว่า 60 ปีคู่ผลตอบแทนกว่า 5 ล้าน% กับซุปเปอร์เทพหุ้นทรงคุณค่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ l BTimes

ถ้าไปถามคนวงการตลาดทุน แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ คุณปู่ชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่งตัวธรรมดา แต่กลับเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกจากการจัดของนิตยสาร Forbes โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1.54 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เรียกได้ว่ารวยแต่สมถะของแทร่!

เส้นทางการค้าของคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มต้นจากการขายหมากฝรั่งในตอนที่มีอายุเพียง 5–6 ขวบ ก่อนจะขยับขยายมาขายทั้งน้ำอัดลม Coca-Cola และนิตยสารรายสัปดาห์ จนอายุได้ 7 ขวบ ประกายไอเดียของการลงทุนก็เริ่มต้นขึ้น คุณปู่ได้รับกระตุ้นให้คิดการณ์ใหญ่และเริ่มมองหาวิธีการสร้างรายได้ จากการอ่านหนังสือ One Thousand Ways to Make $1000 คุณปู่ค่อยๆ เก็บหอมรอมริบกระทั่งผ่านเวลามาถึงตอนที่มีอายุได้ 11 ขวบ ก็นำเงินเก็บไปลงทุนกับหุ้น Cities Service Preferred ครั้งแรกจำนวน 6 หุ้น ในราคา 38 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยแบ่งกับน้องสาวคนละ 3 หุ้น ก่อนจะเทขายในตอนที่ราคานั้นดีดไปถึง 40 ดอลลาร์ ส่งผลให้คุณปู่ได้กำไร 4.6% จากการขายครั้งนี้

หลังจากที่เด็กชายวอร์เรน บัฟเฟตต์เติบโต ก็ได้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และได้พบกับเบนจามิน เกรแฮม กระทั่งกลายเป็นศิษฐ์เอกด้านการลงทุนของเกรแฮม ต่อมาในปี 1965 คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็ได้เข้าไปกุมบังเหียนบริหารบริษัท Berkshire Hathaway และเกษียณในปี 2025 สิริรวมเวลาที่บริหารมาถึง 60 ปี สร้างผลตอบแทนของหุ้นได้มากถึง 5,502,284% เทียบให้เห็นภาพชัดๆ ก็เช่น คุณกำเงิน 1 ดอลลาร์มาลงทุนกับเขาในปี 1965 แต่ต่อมาในปี 2013 คุณจะได้ผลตอบแทนต่อ 1 ดอลลาร์ พุ่งมาอยู่ที่ 3 ล้านดอลลาร์นั่นเอง

ถึงแม้คุณปู่จะกลายเป็นชายที่ประสบความสำเร็จมหาศาล แต่ก็ยอมรับว่าในบางช่วงบางตอนก็เคยตัดสินใจพลาด เช่น การไม่เข้าซื้อหุ้นจอง IPO ของบริษัทอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นกูเกิลเองก็กำลังปูทางมาอย่างสวยงามเพื่อเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น ที่สุดบริษัทอัลฟาเบทก็ก้าวขึ้นแท่น 1 ใน 7 หุ้นนางฟ้าในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีผลประกอบการสูงลิ่ว…

“It’s far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price. หรือการซื้อบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม ดีกว่าซื้อบริษัทธรรมดาในราคาถูกมาก”

ประโยคโด่งดังสุดคลาสสิคที่เป็นไกด์ไลน์ให้นักลงทุนหลายๆ คน ที่อธิบายให้เข้าใจง่ายและกระชับก็คืออย่าไปหลงกับกับดักหุ้นราคาถูก แต่ไม่มีประวัติและไร้อนาคตที่จะเติบโต

คุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้หลักการลงทุนหลักๆ ไว้ 3 ข้อ ได้แก่
1. Wait… Then Pounce: รอจังหวะ แล้วค่อยกระโดด ให้ศึกษาข้อมูลบริษัทให้ดี แล้วค่อยตัดสินใจซื้อหุ้น
2. Stay the Course: อย่าตกใจง่าย ให้ใจเย็นๆ เพราะในบางช่วงบางตอนหุ้นอาจจะตกหนัก หรือติดดอย แต่ให้ซื้อเพิ่มถ้าคุณมั่นใจในธุรกิจนั้น ต่อให้ราคาที่คุณซื้ออาจจะต้องซื้อแบบถัวเฉลี่ยก็ตาม
3. Stay the Course: ซื้อธุรกิจ ไม่ใช่ซื้อหุ้นที่คุณสนใจ ต้องรู้จังหวะที่ดีที่สุดของหุ้นตัวนั้นคืออะไร และมองหาธุรกิจที่คุณเข้าใจ จะช่วยให้คุณประเมินอนาคตการลงทุนได้ดีกว่า

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles