เอกชน กังวลสารพัดปัจจัยเสี่ยง ความตึงเครียดตะวันออกกลาง เสถียรภาพรัฐบาล ปัญหาชายแดน ยิ่งกดดันเศรษฐกิจไทย

เอกชน กังวลสารพัด ปัจจัยเสี่ยง ความตึงเครียดตะวันออกกลาง เสถียรภาพรัฐบาล ปัญหาชายแดน ยิ่งกดดัน เศรษฐกิจ ไทย

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ทั้งสถานการณ์สู้รบในตะวันออกกลาง ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลที่รุนแรงมากขึ้น และการเจรจากำแพงภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐ ยังไม่รู้ว่าจะมีออกมาเป็นอย่างไร เป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหรือคู่แข่ง หากผลออกมาไทยเสียเปรียบ จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก และเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วงครึ่งหลังของปี 2568

ประกอบกับปัญหาชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ไทยเผชิญความเสี่ยงมากกว่าที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชานั้น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทย และเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ อีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มขึ้นมาภายในประเทศของเราเอง

รวมทั้งกรณีที่พรรคภูมิใจไทยประกาศลาออก ทั้งที่เป็นพรรคที่มีจำนวน ส.ส.มาก ก็ต้องคอยติดตามขดูว่ารัฐบาลจะมีพรรคร่วม หรือจำนวนเสียงของพรรคเป็นอย่างไรต่อไป

“ยอมรับว่าสถานการณ์ขณะนี้น่ากังวลมากขึ้น เนื่องจากประเด็นที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่มเข้ามา จากความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยภายในประเทศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นภาคเอกชนก็คงต้องคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า เสถียรภาพของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร จะมีจำนวนพรรคร่วมเท่าไหร่ และทิศทางต่อไปจะเป็นอย่างไร”

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles