วิจัยกสิกรไทย คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ลุ้นแตะ 33 บาทต่อดอลลาร์ หลังเคลื่อนไหวในกรอบแข็งค่า หลังรอดูสถานการณ์การเมืองในประเทศ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  ระบุว่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนช่วงต้นสัปดาห์ที่ 33.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแข็งค่าได้อีกครั้งช่วงกลางสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางเงินหยวน สกุลเงินเอเชียอื่นๆ และสินทรัพย์เสี่ยงรับข่าวอิสราเอล-อิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิง นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดประเมินถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย (โดยเฉพาะหากผลของ Tariffs ยังไม่ได้ทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น) ประกอบกับปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงกล่าวในเชิงกดดันประธานเฟดและเตรียมที่จะเริ่มสรรหาประธานเฟดคนใหม่ในเดือนก.ย. หรือต.ค. นี้เพื่อมาแทนนายเจอโรม พาวเวลที่จะหมดวาระในปีหน้า

โดยผลการประชุมกนง. ที่มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ตามเดิม พร้อมกับปรับทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทยไปที่ 2.3% นั้น ยังไม่มีผลมากนักต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก แรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย ประกอบกับตลาดรอติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด

ในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (20 มิ.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 23-27 มิ.ย. 2568 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,441 ล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตรไทยต่อเนื่องอีก 5,789 ล้านบาท  

ส่วนในสัปดาห์นี้ (30 มิ.ย.-4 ก.ค. 2568 ) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนพ.ค. ของไทย ปัจจัยการเมืองในประเทศ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและบริการ ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน/อัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนมิ.ย. ของจีน อังกฤษ และยูโรโซน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน ตลอดจนพัฒนาการของประเด็นการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า รวมถึงสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านด้วยเช่นกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles