ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 4 สิงหาคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 66.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.50% ส่งผลราคาปิดลง 3 วันติดกันรวม -3.71 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.35%
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 68.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.91 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.30% ส่งผลราคาปิดลง 3 วันติดกันรวม -4.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.10%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งปิด +6.29% และ +6.00% ตามลำดับ
สาเหตุจาก กลุ่มโอเปกพลัส เปิดเผยว่า มีมติเพิ่มกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มในการประชุมเดือนกันยายนนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 548,000 บาร์เรล ส่งผลเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5
กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา เปิดเผยตัวเลขยอดการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 73,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 คน นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวในเดือนมิถุนายนได้ปรับปรุงใหม่ ซึ่งพบว่ามียอดการจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 14,000 คน ซึ่งต่ำกว่าเดิมที่เคยประกาศไว้ว่าเพิ่มขึ้น 147,000 คน และในเดือนพฤษภาคมยอดการจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 19,000 คน ซึ่งต่ำกว่าเดิมที่เคยประกาศไว้ว่าเพิ่มขึ้น 125,000 คน สะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐอเมริกาที่อ่อนแอลงอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าให้เวลารัสเซียแค่ 10 วันในการสร้างความคืบหน้าต่อการยุติสงครามกับยูเครน หากไม่ทันตามวันที่กำหนดไว้ จะประกาศใช้มาตรการภาษี 100% กับสินค้าจากประเทศรัสเซีย พร้อมด้วยประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบที่สองด้วยการขึ้นภาษี 100% กับประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบและสินค้าอื่นๆจากประเทศรัสเซีย ซึ่งเป้าหมายชัดเจนว่าจีนและอินเดียจะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก สหรัฐให้เวลารัสเซีย 50 วัน
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 05.00 น. ราคากลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอลล์ +40 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 2 ในรอบ 5 วันผ่านมา หรือตั้งแต่ 1 สิงหาคม และมีราคาขายสูงสุดนับตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2022 หรือใน 13 วันผ่านมา
